sustainability

ข่าวสารบริษัท

07 Jan 2025
เปิดวันนี้ i-Store ทองหล่อ ปักหมุดทำเลทอง ก้าวกระโดดมี 10 สาขา มากที่สุดในกรุงเทพฯ
บริษัท สอตเรจ เอเชีย จำกัด (มหาชน) ขึ้นแท่นเป็นผู้ให้บริการ Self Storage มากที่สุดในกรุงเทพฯ ล่าสุดเปิดให้บริการ i-Store Self Storage สาขาทองหล่อ เพื่อรองรับความต้องการของลูกค้าซอยทองหล่อและสุขุมวิทฝั่งเลขคี่  i-Store สาขาทองหล่อ ตั้งอยู่ในซอยทองหล่อ 9 ห่างจากสถานีรถไฟฟ้าทองหล่อ BTS เพียง 800 เมตร ซึ่งถือว่าเป็นทำเลที่ตั้งอยู่ในใจกลางเมือง มีคอนโดรายล้อมและชาวต่างชาติอาศัยอยู่เป็นจำนวนมากการขยายสาขาของ i-Store Self Storage ในปี 2024 ถือว่าขยายการให้บริการเติบโตแบบก้าวกระโดด จากเมื่อปี 2023 เปิดให้บริการเพียง 5 สาขา ณ ปัจจุบันเปิดให้บริการทั้งหมด  10  สาขา คือ (1)สาขาสีลม, (2)สาขาสุขุมวิท 24 ,(3) สาขาสุขุมวิท 71, (4)สาขาสาทร วัน , (5)สาขาหัวลำโพง, (6) สาขาอุดมสุข , (7) สาขาอ่อนนุช , (8) สาขาจตุจักร, (9) สาขาเพลินจิต-นานา, (10) สาขาทองหล่อ 9 รวมขนาดพื้นที่ให้บริการทั้งหมด  9,131 ตรม. ขึ้นแท่นเป็นผู้ให้บริการ Self Storage มากที่สุดในกรุงเทพ ทั้งนี้ยังไม่นับรวมสาขา Unmanned Storage ที่เปิดให้บริการในคอนโดมิเนียม อีก 3 โลเคชั่น คือ คอนโด Aspire สาทร-ตากสิน, Hasu Haus T77 และคอนโดโนเบิล เพลินจิต เป็นต้นนอกจากนี้ทาง i-Store ยังเล็งเห็นศักยภาพของการเติบโตธุรกิจ Self Storage ในประเทศไทย โดยมีแผนที่จะขยายพื้นที่บริการให้ครอบคลุมในเขตกรุงเทพและต่างจังหวัดที่เป็นหัวเมืองเศรษฐกิจและการท่องเที่ยวของประเทศไทย พร้อมกับพัฒนารูปแบบการให้บริการเพื่อให้สามารถตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้าให้ได้มากที่สุด   /*! elementor - v3.17.0 - 01-11-2023 */ .elementor-widget-image{text-align:center}.elementor-widget-image a{display:inline-block}.elementor-widget-image a img[src$=".svg"]{width:48px}.elementor-widget-image img{vertical-align:middle;display:inline-block}
20 Dec 2022
ISTORE22 เคาะราคาเสนอขาย IPO 1.40 บาท/หุ้น เข้าเทรดในตลาด LiVEx

ISTORE22 เคาะราคาเสนอขาย IPO 1.40 บาท/หุ้น เข้าเทรดในตลาด LiVEx จองซื้อ 15-16 ธ.ค. และ 19 ธ.ค. 65 นี้

          บมจ. สตอเรจเอเชียจำกัด หรือ ISTORE22 เคาะขายไอพีโอหุ้นละ 1.40 บาท เตรียมเปิดให้จองซื้อระหว่าง วันที่ 15-16 ธันวาคม และ 19 ธันวาคม 2565 นี้ ทั้งนี้ได้เซ็นสัญญาแต่งตั้ง บริษัทหลักทรัพย์ กรุงไทย เอ็กซ์สปริง จำกัด (KTX) ให้เป็นแกนนำอันเดอร์ไรท์ ฯ โดยมี คุณภักดี อนิวรรตน์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท สตอเรจ เอเชีย จำกัด (มหาชน) และคุณบุษราภรณ์ จันทร์ชูเชิด รองกรรมการผู้จัดการบริษัทหลักทรัพย์ กรุงไทย เอ็กซ์สปริง จำกัด ร่วมลงนาม ระบุเป็นราคาที่เหมาะสมกับปัจจัยพื้นฐานของบริษัท พร้อมชูจุดเด่นผู้นำบริการให้เช่าห้องเก็บของระดับพรีเมียมของประเทศไทย มั่นใจหลังเปิดจองจะได้รับกระแสตอบรับเป็นอย่างดี เชื่อมั่นหุ้นมีศักยภาพและมีอัตราการเติบโตอย่างต่อเนื่อง นักลงทุนที่มีส่วนร่วมในการถือหุ้น ISTORE22 จะได้รับผลตอบแทนที่น่าพึงพอใจ

          คุณภักดี อนิวรรตน์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท สตอเรจ เอเชีย จำกัด (มหาชน) กล่าว “บมจ. สตอเรจ เอเชีย หรือ ISTORE22 เป็นผู้นำในธุรกิจให้บริการให้เช่าห้องเก็บของหรือทรัพย์สินส่วนตัว (Self Storage) แบรนด์ i-Store ปัจจุบัน i-Store Self Storage เปิดให้บริการในทำเลใจกลางเมืองที่สาขาสีลม สาขาสุขุมวิท 24 และ สาขาสุขุมวิท 71 และสาขาที่ 4 สาขาสาทร วัน ซึ่งอยู่ในระหว่างการดำเนินการก่อสร้าง (เปิดให้บริการประมาณไตรมาส 2 ปี 66 ) โดยมีแผนจะขยายสาขาการให้บริการตามแหล่งชุมชนที่มีประชากรหนาแน่นเพื่อให้ครอบคลุมความต้องการของลูกค้าทั้งในเขตกรุงเทพฯและจังหวัดหัวเมืองการท่องเที่ยงของประเทศไทย ด้วยการนำเทคโนโลยีที่ทันสมัยมาพัฒนารูปแบบการให้บริการให้สามารถตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้าและสามารถเข้าถึงลูกค้าได้ทุกกลุ่ม ด้วยบริการของ i-StoreGo Door to Door Storage บริการรับฝากสิ่งของส่วนตัวถึงบ้าน ทั้งนี้เพื่อเพิ่มศักยภาพการรองรับความต้องการของลูกค้าและเพื่อสร้างคุณค่าของผลิตภัณฑ์ทำให้ลูกค้าได้รับประโยชน์สูงสุดเมื่อมาใช้บริการ ด้วยทีมงานที่มีศักยภาพและพร้อมที่จะให้บริการลูกค้าอย่างมืออาชีพ

          การเติบโตของบริษัท สตอเรจ เอเชีย จำกัด (มหาชน) และแผนการขยายสาขาเพื่อรองรับความต้องการของลูกค้าซึ่งมีโอกาสที่จะเติบโตขึ้นเรื่อยๆ โดยในปี 2564 บริษัทมีรายได้รวมอยู่ที่ 18.58 ล้านบาท และ ปี 2565 ครึ่งปีบริษัทมีรายได้อยู่ที่ 10.73 ล้านบาทและมีผลกำไรสุทธิเป็นบวกที่ 16.56 ล้านบาท จากการที่โรดโชว์ที่ผ่านมาก มีนักลงทุนตอบรับและให้ความสนใจแสดงความต้องการจองซื้อหุ้น “ISTORE22” เนื่องจากมีความมั่นใจว่าเป็นหุ้นที่อยู่ในเทรนด์ของการเติบโตและจะสร้างคุณค่า ผลตอบแทนที่ดีให้แก่นักลงทุนในระยะยาว ทั้งนี้บริษัทได้กำหนดจำนวนหุ้นที่จะเสนอขายต่อนักลงทุนทั่วไปเป็นครั้งแรก (IPO) โดยเป็นหุ้นสามัญเพิ่มทุนใหม่จำนวน 36 ล้านหุ้น คิดเป็น 14.1% ของหุ้นทั้งหมด ภายหลังการออกและเสนอขายหุ้นครั้งนี้ จำนวน 36 ล้านหุ้น มูลค่าหุ้นที่ตราไว้ 50 สตางค์/หุ้น โดยมีบริษัทหลักทรัพย์ กรุงไทย เอ็กสปริง จำกัด (KTX) เป็นผู้จัดจำหน่ายหลักทรัพย์ บริษัทฯ มองว่ามูลค่าหุ้นที่เสนอขายหุ้นละ 1.40 บาท ถือเป็นระดับราคาที่เหมาะสมกับปัจจัยพื้นฐานของบริษัท ทั้งนี้วัตถุประสงค์ในการขายหุ้น IPO บริษัทจะนำเงินไปขยายธุรกิจบริการให้เช่าห้องเก็บของหรือทรัพย์สินส่วนตัว (Self Storage) แบรนด์ i-Store จากเดิมมีอยู่ทั้งหมด 4 สาขา จะขยายเพิ่มอีก 2 สาขารวมถึงการพัฒนาระบบธุรกิจบริการให้เช่าห้องเก็บของส่วนตัวถึงบ้าน ในรูปแบบการจัดการออนไลน์ นอกจากนี้ จะนำไปใช้ชำระคืนเงินกู้ยืมบางส่วนจากสถาบันการเงิน

          บริษัทมั่นใจว่าในอนาคต บมจ. สตอเรจ เอเชีย จำกัด (มหาชน) จะเป็นผู้นำในธุรกิจบริการให้เช่าห้องเก็บของ (Self Storage) และจะสามารถขยายพื้นที่การให้บริการ เพื่อรองรับความต้องการของลูกค้าในอนาคตได้เป็นอย่างดี ซึ่งจะทำให้บริษัทมีฐานะทางการเงินที่แข็งแกร่งขึ้น เป็นการเพิ่มศักยภาพธุรกิจให้สามารถรองรับการเติบโตในอนาคต และได้รับการยอมรับในฐานะที่เป็นบริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ไลฟ์เอ็กซ์เช้นจ์ (LiVEx)  ตลอดจนสามารถสร้างผลตอบแทนให้กับผู้ถือหุ้นได้อย่างยั่งยืน

08 Dec 2022
บริษัท สตอเรจ เอเชีย จำกัด (มหาชน) เตรียมจัดโรดโชว์หุ้น IPO เพื่อขยายธุรกิจบริการให้เช่าห้องเก็บของ Self Storage

บริษัท สตอเรจ เอเชีย จำกัด (มหาชน)  ดำเนินธุรกิจบริการให้เช่าห้องเก็บของหรือทรัพย์สินส่วนตัว (Self Storage) ระดับ Premium ของประเทศไทย นำเสนอทางเลือกของการจัดเก็บที่มีคุณภาพ ด้วยการนำเทคโนโลยีที่ทันสมัยมาพัฒนาการให้บริการ ภายใต้เครื่องหมายการค้าแบรนด์ i-Store เพื่อช่วยแก้ปัญหาผู้คนที่อาศัยอยู่ในคอนโดฯ บ้าน หรือสำนักงานออฟฟิศที่ต้องการเพิ่มพื้นที่สำหรับจัดเก็บสิ่งของส่วนตัวทั้งในระยะสั้นและระยะยาวหรือจัดเก็บสิ่งของชั่วคราวในระหว่างที่มีการรีโนเวทบ้าน รวมไปถึงธุรกิจออนไลน์ e-Commerce ที่ต้องการพื้นที่เก็บสินค้าขนาดเล็กใจกลางเมือง ก่อตั้งโดย คุณภักดี อนิวรรตน์ ผู้ก่อตั้งและเจ้าของกิจการ เริ่มเห็นโอกาสจากพฤติกรรมของผู้คนที่นิยมอาศัยอยู่ในคอนโดมิเนียมและจำนวนความหนาแน่นของประชากรที่เพิ่มขึ้นในเขตกรุงเทพมหานคร ประกอบกับการศึกษาแนวโน้มธุรกิจบริการให้เช่าที่เก็บของส่วนตัวในต่างประเทศ อาทิ อเมริกา อังกฤษ ออสเตรเลีย รวมไปถึงพื้นที่ในแถบเอเชีย อาทิ ประเทศฮ่องกง ประเทศสิงคโปร์ ประเทศจีน ซึ่งประชาชนมีลักษณะพฤติกรรมของการอยู่อาศัยในเมืองใกล้เคียงกับประเทศไทย เริ่มมีปัญหาเรื่องพื้นที่ในการจัดเก็บสิ่งของหรือพื้นที่เก็บของไม่เพียงพอ อีกทั้งปัจจุบันคอนโดก็มีขนาดเล็กลง การที่จะใช้พื้นที่ภายในห้องให้เกิดประโยชน์สูงสุดเพื่อการอยู่อาศัยก็เป็นปัญหาสำหรับคนที่มีของเยอะ รวมไปถึงการย้ายถิ่นฐานของชาวต่างชาติที่อาศัยอยู่ในประเทศไทย ที่มีจำนวนเพิ่มสูงขึ้นเรื่อยๆ จึงเป็นที่มาของการก่อตั้งธุรกิจให้เช่าห้องเก็บของ (Self Storage) เพื่อช่วยแก้ปัญหาให้กับลูกค้าที่ต้องการเพิ่มพื้นที่อยู่อาศัยให้มากขึ้น ด้วยการจัดเก็บสิ่งของที่ไม่มีความจำเป็นต้องใช้บ่อย หรือของที่นานๆ ใช้ที นอกจากนั้นธุรกิจให้เช่าห้องเก็บของ (Self Storage) ยังช่วยแก้ปัญหาลูกค้ากลุ่มผู้ค้าออนไลน์ ที่ต้องการหาที่เก็บของเพื่อสต๊อกสินค้าใกล้คอนโดและสะดวกในการเข้า-ออกเพื่อทำการจัดส่งสินค้าอีกด้วย

          ปัจจุบัน i-Store Self Storage เปิดให้บริการ 3 สาขา ที่สาขาสีลม สาขาสุขุมวิท 24 และ สาขาสุขุมวิท 71 และสาขาที่ 4 อยู่ระหว่างการดำเนินการก่อสร้าง คาดการณ์จะเปิดให้บริการต้นปี 2566 คือ สาขาสาทร วัน โดยสาขาของ i-Store Self Storage จะเน้นทำเลที่ตั้งอยู่ใจกลางเมืองและสะดวกสบาย สามารถเดินทางได้หลากหลายช่องทาง ใกล้รถไฟฟ้า มีที่จอดรถ เพื่อให้ลูกค้าสามารถเดินทางเข้าออกห้องเก็บของได้ด้วยตนเองตลอด 24 ชั่วโมง สถานที่มีความสะอาดและมีระบบรักษาความปลอดภัยที่ได้มาตรฐาน โดยบริษัทจะเป็นผู้ดูแลและจัดเก็บรักษาสิ่งของหรือทรัพย์สินส่วนตัวของลูกค้าตลอดระยะเวลาสัญญาการเช่า

          ขั้นตอนการใช้บริการลูกค้าสามารถเลือกขนาดห้องที่เหมาะสมกับจำนวนสิ่งของหรือทรัพย์สินของลูกค้า i-Store Self Storage มีขนาดห้องให้เลือกใช้บริการทั้งหมด 11 ขนาด จากนั้นเลือกระยะเวลาในการทำสัญญาเช่า โดยสามารถทำสัญญาเริ่มต้นที่ 1 เดือนขึ้นไป เมื่อลูกค้าทำสัญญาเสร็จแล้วก็สามารถนำสิ่งของหรือทรัพย์สินเข้ามาจัดเก็บและสามารถเข้าออกพื้นที่ห้องเก็บของด้วยตนเองได้ตลอด 24  ชั่วโมง

          การเติบโตและการขยายกิจการของบริษัท สตอเรจ เอเชีย จำกัด (มหาชน) ตลอดระยะเวลา 5 ปี ดำเนินงานกิจการด้วยความตั้งใจที่จะเป็นผู้นำในการให้บริการประกอบธุรกิจบริการให้เช่าห้องเก็บของนอกบ้านที่ดีที่สุดและใช้นวัตกรรมที่ทันสมัยมาพัฒนาการให้บริการที่มีคุณภาพ เข้าใจความต้องการของลูกค้าเพื่อให้เข้าถึงทุกความต้องการในทุกไลฟ์สไตล์ พร้อมกับแผนขยายสาขาการให้บริการที่ครอบคลุมทั่วประเทศไทย โดยบริษัทฯ ได้แบ่งลักษณะธุรกิจและบริการของบริษัท แบ่งเป็น 2 รูปแบบ คือ ธุรกิจบริการให้เช่าและธุรกิจบริการ ดังนี้

  • ธุรกิจบริการให้เช่า แบ่งออกเป็น 3 รูปแบบ ดังนี้
  1. ธุรกิจบริการให้เช่าห้องเก็บของส่วนตัว (Self Storage) ดำเนินกิจการภายใต้ แบรนด์ i-Store Self Stoarge บริการให้เช่าห้องเก็บทรัพย์สินหรือสิ่งของส่วนตัว โดยที่ลูกค้าเป็นผู้ดำเนินการจัดเก็บและเข้า-ออกห้องเก็บของด้วยตนเองได้ตลอด 24 ชั่วโมง ในการให้บริการเก็บของส่วนตัวของบริษัท แบ่งเป็น 2 ประเภท คือ ห้องอุณหภูมิปกติ และห้องควบคุมอุณหภูมิ (ห้องแอร์) ขนาดห้องให้บริการทั้งหมด 11 ขนาด
  2. ธุรกิจบริการให้เช่าห้องเก็บไวน์ส่วนตัว (Wine Storage) ดำเนินกิจการภายใต้ แบรนด์ของบริษัทเอง ในการให้บริการให้เช่าห้องเพื่อจัดเก็บไวน์โดยเฉพาะ โดยที่ลูกค้าเป็นผู้ดำเนินการจัดเก็บและเข้า – ออกห้องเก็บไวน์ได้ด้วยตนเองตลอด 24 ชั่วโมง
  3. ธุรกิจบริการให้เช่าพื้นที่ค้าปลีกและอาคารสำนักงาน สำหรับผู้ประกอบการที่สนใจการเช่าพื้นที่ในโครงการของบริษัท เพื่อเป็นการสร้าง Eco System ให้กับลูกค้าที่เข้ามาใช้บริการในพื้นที่ และยังสามารถนำสินค้า หรือบริการของผู้ประกอบการแต่ละรายมาทำกิจกรรมร่วมกัน
  • ธุรกิจบริการ แบ่งออกเป็น 4 รูปแบบ ดังนี้
  1. ธุรกิจบริการรับฝากสิ่งของส่วนตัวถึงบ้าน (Door to Door Storage) ดำเนินกิจการภายใต้แบรนด์ i-StoreGo Door to Door Stoarge ให้บริการรับฝากสิ่งของส่วนตัวถึงบ้านของลูกค้า สำหรับลูกค้าที่ไม่ประสงค์เดินทางมายังสถานที่จัดเก็บ บริษัทจะเป็นผู้ดูแลเรื่องการขนย้าย แพ็ค จัดเก็บ และนำส่งคืนให้กับลูกค้า โดยลูกค้าสามารถทำการเรียกคืนสิ่งของและนัดหมายกับเจ้าหน้าที่ผ่านผ่านระบบการจัดการออนไลน์ด้วยตนเอง
  2. ธุรกิจบริการออกแบบและติดตั้ง (Self Storage Design & Construction) บริษัทเป็นผู้ให้บริการแก่เจ้าของที่ดินที่มีพื้นที่และมีความต้องการติดตั้ง Storage ในพื้นที่ของตนเอง ซึ่งทางบริษัทมีเจ้าหน้าที่ที่มีความเชี่ยวชาญในเรื่องของการออกแบบ Self Storage ที่ให้คำแนะนำอย่างเหมาะสมและเป็นไปตามมาตรฐานการให้บริการ Self Storage
  3. ธุรกิจบริการรับจ้างบริหารจัดการพื้นที่ Self Storage (Storage Management) บริษัทให้บริการรับจ้างบริหารจัดการพื้นที่ Self Storage และควบคุมการบริการให้ได้ตามมาตรฐานของ Brand Standard ซึ่งบริษัทมีความยินดีหากเจ้าของที่ดินอื่นๆ ที่มีความประสงค์ที่จะลงทุนเพื่อพัฒนาโครงการ Self Storage ในทำเลที่ดินของตนเอง สามารถติดต่อให้ทีมงานผู้เชี่ยวชาญของบริษัทเข้าทำการศึกษาความเป็นไปได้ (Feasibility Study) เพื่อวิเคราะห์ความเป็นไปได้ในการลงทุนของโครงการ Self Storage
  4. ธุรกิจบริการติดตั้งและจำหน่ายระบบบริหารจัดการตู้สำหรับจัดเก็บสิ่งของ (License Unmanned Storage) บริษัทเป็นผู้ให้บริการติดตั้งระบบ License Unmanned Storage สำหรับเจ้าของโครงการคอนโดมิเนียมหรือนิติบุคคลอาคารชุดที่ต้องการบริหารพื้นที่เพื่อให้บริการ Unmanned Storage โดยปัจจุบัน บริษัทอยู่ระหว่างการดำเนินการทดลองให้บริการให้กับลูกค้าของบริษัทพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ชั้นนำรายหนึ่ง ซึ่งมีขนาดพื้นที่ในการให้บริการตั้งแต่ 0.5 ตารางเมตร (Luggage size) จนถึงขนาด 1 ตารางเมตร (Locker size) และในการให้บริการ บริษัทได้มีการกำหนดให้บริการเฉพาะลูกค้าในโครงการเท่านั้น

สอบถามข้อมูลเพิ่มเติม คุณเพ็ชรรัตน์   พงษ์เกษมพรกุล  โทร 086-833-8011 E-mail :  petcharat.p@storage-asia.co.th

www.storage-asia.co.th
www.i-store.co.th
www.i-storego.com

08 Dec 2022
สตอเรจ เอเชีย ส่ง ISTORE22 จัดโรดโชว์ขายหุ้น IPO เพื่อขยายธุรกิจบริการให้เช่าห้องเก็บของ Self Storage

  คุณภักดี อนิวรรตน์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารบริษัท สตอเรจ เอเชีย จำกัด (มหาชน) จัดทัพเดินหน้าโรดโชว์สร้างความเชื่อมั่นต่อนักลงทุนตามแผนเสนอขายหุ้น IPO ชูศักยภาพความพร้อมและจุดเด่นของธุรกิจบริการให้เช่าห้องเก็บของหรือทรัพย์สินส่วนตัว (Self Storage)


เมื่อวันที่ 1 ธันวาคม 2565 บริษัทสตอเรจ เอเชีย ฯ จัดโรดโชว์เพื่อให้นักลงทุนทั่วไปได้รับฟังข้อมูลแผนการระดมทุนและกลยุทธ์การเติบโต โดยมีเป้าหมายจะเสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุน (IPO) เป็นครั้งแรก จำนวน 36 ล้านหุ้น คิดเป็น 14.1% ของจำนวนหุ้นสามัญที่ออกและเรียกชำระแล้วทั้งหมดของบริษัท ซึ่งภายหลังการเสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุนในครั้งนี้ บริษัทฯ คาดจะเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ไลฟ์เอ็กซ์เช้นจ์ภายในปีนี้

วัตถุประสงค์หลักในการเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์หลักทรัพย์ไลฟ์เอ็กซ์เช้นจ์ในครั้งนี้ เพื่อต้องการระดมทุนนำไปใช้ขยายธุรกิจบริการให้เช่าห้องเก็บของหรือทรัพย์สินส่วนตัว (Self Storage) แบรนด์ i-Store จากเดิมมีอยู่ทั้งหมด 4 สาขา จะขยายเพิ่มอีก 2 สาขา และรวมถึงการพัฒนาระบบธุรกิจบริหารให้เช่าห้องเก็บของส่วนตัวถึงบ้าน ในรูปแบบการจัดการออนไลน์ นอกจากนี้ จะนำไปใช้ชำระคืนเงินกู้ยืมบางส่วนจากสถาบันการเงิน อีกทั้งเป็นการเตรียมความพร้อมเข้าสู่ตลาดหลักทรัพย์ เอ็ม เอ ไอ (mai) เพื่อเพิ่มความน่าเชื่อถือในด้านภาพลักษณ์ ให้เป็นที่ยอมรับของลูกค้า รวมถึงเพิ่มศักยภาพในการแข่งขัน เพื่อรองรับการเติบโตของบริษัทฯ ในอนาคต

ปัจจุบัน i-Store Self Storage เปิดให้บริการ 3 สาขา ที่สาขาสีลม สาขาสุขุมวิท 24 และ สาขาสุขุมวิท 71 ซึ่งสาขาสีลม และสาขาสุขุมวิท 24 เปิดให้บริการมา 4 ปี มีอัตราการใช้บริการอยู่มากกว่า 85% แม้ในสถานณการ์โรคระบาดโควิด-19 ในส่วนของสาขาสุขุมวิท 71 เปิดให้บริการมาประมาณ 6 เดือน อัตราการเข้าใช้บริการอยู่ที่ประมาณ 30% ซึ่งคาดการณ์ว่าจะมีอัตราการใช้บริการที่ 80% ประมาณไตรมาส 3 ปี 66 และสาขาที่ 4 สาขาสาทร วัน ซึ่งในขณะนี้อยู่ในระหว่างการดำเนินการก่อสร้างและคาดว่าจะสามารถเปิดให้บริการประมาณไตรมาส 2 ปี 66สาขาที่ 5 สาขาอุดมสุข เริ่มก่อสร้างต้นปี 66 คาดเปิดบริการปลายปี 66 หรือต้นปี 67 และสาขาที่ 7 สาขาอ่อนนุช คาดเปิดบริการปลายปี 67

สอบถามข้อมูลเพิ่มเติม คุณโชติกา พรหมวุฒิสายบัว
โทร 098-249-8393 E-mail : chotika.p@storage-asia.co.th
www.storage-asia.co.th
www.i-store.co.thwww.i-storego.com

20 Nov 2022
ตลาดหลักทรัพย์ไลฟ์เอ็กซ์เช้นจ์ (LiVEx)  เปิด Public Opinion ให้ผู้ลงทุนสอบถามคำถามต่าง ๆ กับบริษัทที่เตรียม IPO บน LiVE Exchange

ตลาดหลักทรัพย์ไลฟ์เอ็กซ์เช้นจ์ (LiVEx)

เปิด Public Opinion ให้ผู้ลงทุนสอบถามคำถามต่าง ๆ กับบริษัทที่เตรียม IPO บน LiVE Exchange

บริษัท สตอเรจ เอเชีย จำกัด (มหาชน)

ช่วงเวลา Public Opinion : 20 ตุลาคม – 18 พฤศจิกายน 2565

ศึกษาข้อมูล Filing ของบริษัท และส่งคำถามได้ที่ https://bit.ly/3TixRDU

— ข้อมูลเบื้องต้นของบริษัท —

บริษัท สตอเรจ เอเชีย จำกัด (มหาชน) ดำเนินธุรกิจบริการให้เช่าห้องเก็บของหรือทรัพย์สินส่วนตัว (Self Storage) ระดับ Premium ของประเทศไทย ภายใต้เครื่องหมายการค้าแบรนด์ i-Store ปัจจุบัน i-Store Self Storage เปิดให้บริการ 3 สาขา คือ สาขาสีสม สาขาสุขุมวิท 24 และสาขาสุขุมวิท 71

12 Jun 2022
ก.ล.ต. อนุมัติแบบไฟลิ่ง ISTORE เตรียมออกหุ้นกู้มูลค่ารวมไม่เกิน 150 ล้านบาท ตอกย้ำการเป็นผู้นำอุตสาหกรรม Self-Storage ระดับประเทศ

ก.ล.ต. อนุมัติแบบไฟลิ่ง บมจ. สตอเรจ เอเชีย หรือ ISTORE ผู้นำธุรกิจบริการ Self-Storage ภายใต้แบรนด์ “i-Store“ เตรียมเสนอขายหุ้นกู้ ครั้งที่ 1/2566 อายุ 2 ปี อัตราดอกเบี้ยคงที่ 6.95% ต่อปี มูลค่าหุ้นกู้รวมไม่เกิน 150 ล้านบาท เสนอขายแก่ผู้ลงทุนสถาบัน และ/หรือ ผู้ลงทุนรายใหญ่ จองซื้อวันที่ 19-21 มิ.2566 และเสนอขายหุ้นกู้วันที่ 22 มิ.2566 ตอกย้ำการเป็นผู้นำอุตสาหกรรม Self-Storage ระดับประเทศเสริมแกร่งธุรกิจด้วยผู้ถือหุ้นและพันธมิตรทางธุรกิจ WHA GROUP, SME D Bank และ SC Asset มั่นใจตลาดในประเทศมีโอกาสขยายตัวต่อเนื่อง

นายภักดี อนิวรรตน์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท สตอเรจ เอเชีย จำกัด (มหาชน) ผู้ดำเนินธุรกิจบริการให้เช่าห้องเก็บของหรือทรัพย์สินส่วนตัว (Self-Storage) ภายใต้เครื่องหมายการค้าแบรนด์ i-Store เปิดเผยว่า ปัจจุบัน สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) ได้อนุมัติแบบแสดงรายการข้อมูลหรือไฟลิ่ง การเสนอขาย“หุ้นกู้ไม่มีประกันของบริษัท สตอเรจ เอเชีย จำกัด (มหาชน) ครั้งที่ 1/2566  ครบกำหนดไถ่ถอนปี พ.ศ. 2568”เป็นที่เรียบร้อยแล้ว เมื่อวันที่ 9 มิถุนายน 2566 ที่ผ่านมา

 สำหรับการเสนอขายหุ้นกู้ไม่มีประกันของ บริษัท สตอเรจ เอเชีย จำกัด (มหาชน) ครั้งที่ 1/2566 อายุ 2 ปี ครบกำหนดไถ่ถอนปี พ.ศ. 2568 ชนิดระบุชื่อผู้ถือ ประเภทไม่ด้อยสิทธิ ไม่มีประกัน และ มีผู้แทนผู้ถือหุ้นกู้ อัตราดอกเบี้ย 6.95% ต่อปี จ่ายดอกเบี้ยทุก 3 เดือน ตลอดอายุหุ้นกู้ มูลค่าหุ้นกู้รวมไม่เกิน 150 ล้านบาท โดยเสนอขายแก่กลุ่มผู้ลงทุนสถาบัน และ/หรือ ผู้ลงทุนรายใหญ่ (PP-II&HNW)

บริษัท สตอเรจ เอเชีย จำกัด (มหาชน) เป็นผู้นำธุรกิจบริการให้เช่าห้องเก็บของหรือทรัพย์สินส่วนตัว (Self-Storage) ระดับพรีเมียมของประเทศไทย ด้วยการนำเสนอทางเลือกของการจัดเก็บที่มีคุณภาพ การนำเทคโนโลยีที่ทันสมัยมาพัฒนาการให้บริการ เพื่อช่วยแก้ปัญหาผู้ที่อาศัยในคอนโดมิเนียม บ้าน หรือ สำนักงาน ที่ต้องการพื้นที่เก็บของส่วนตัวทั้งในระยะสั้นและระยะยาว การจัดเก็บสิ่งของชั่วคราวในระหว่างการต่อเติมหรือซ่อมแซมบ้าน รวมไปถึง ผู้ประกอบธุรกิจ E-commerce ที่ต้องการพื้นที่เก็บสินค้าใจกลางเมือง

ปัจจุบันบริษัทมีสาขาให้บริการทั้งหมด 4 สาขา ได้แก่ สาขาสีลม, สาขาสุขุมวิท 24, สาขาสุขุมวิท 71 และ สาขาสาทร วัน เปิดให้บริการเดือนเมษายน 2566 รวมพื้นที่การให้บริการทั้งหมด 3,271 ตารางเมตร อีกทั้งมีแผนการเปิดสาขาใหม่อีก 2 แห่ง ได้แก่ สาขาอุดมสุข และ สาขาอ่อนนุช ในช่วงครึ่งปีหลัง 2566 ซึ่งทำเลการให้บริการทั้งหมดเป็นจุดเด่นในย่านเขตเศรษฐกิจใจกลางเมือง (Central Business District หรือ CBD) ที่มีความหนาแน่นของประชากรและมีความต้องการพื้นที่จัดเก็บสินค้า โดยมีกลุ่มเป้าหมายเป็นลูกค้าที่พักอาศัยบริเวณสำนักงานในระยะ 3 กิโลเมตร อีกทั้งมีการเพิ่มบริการเสริมที่นอกเหนือจากการให้เช่าพื้นที่เก็บของ เพื่อตอบโจทย์ไฟล์สไตล์คนรุ่นใหม่ อาทิ Wine Storage บริการห้องเก็บไวน์ และ Door to Door Storage บริการรับฝากสิ่งของส่วนตัวถึงบ้านผ่านระบบการจัดการแบบออนไลน์ ภายใต้ชื่อ “i-StoreGo”

การออกและเสนอขายหุ้นกู้ครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อนำเงินที่ได้ เป็นเงินทุนในโครงการใหม่ของบริษัทฯ โดยมีแผนการขยายสาขาใหม่ เพื่อรองรับความต้องการใช้บริการในพื้นที่กรุงเทพฯ และ ต่างจังหวัด การชำระคืนเงินกู้ทั้งเงินต้นและดอกเบี้ยของบริษัท และ เป็นเงินทุนหมุนหมุนเวียนเพื่อเสริมสภาพคล่อง กำหนดวันจองซื้อในช่วงระหว่างวันที่ 19-21 มิถุนายน 2566 และออกหุ้นกู้ในวันที่ 22 มิถุนายน 2566

“บริษัทมุ่งเน้นสร้างการเติบโตอย่างต่อเนื่อง โดยผ่านการขยายสาขาและบริการที่มากขึ้นเพื่อรองรับความต้องการของกลุ่มลูกค้าในทุกไลฟ์สไตล์ของการเลือกจัดเก็บของนอกบ้าน และมีสัญญาเช่าพื้นที่รวมถึงการใช้บริการ  ในระยะยาว ขณะเดียวกัน บริษัทยังมีผู้ถือหุ้นและพันธมิตรเพื่อเสริมความแข็งแกร่งทางธุรกิจได้แก่ กลุ่มบริษัท ดับบลิวเอชเอ คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน), กองทุนร่วมลงทุนในกิจการ SMEs โดยธนาคารพัฒนาวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมแห่งประเทศไทย และ บริษัท เอสซี แอสเสท คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) ซึ่งเป็นการสร้างการต่อยอดธุรกิจและบริการร่วมกัน

ทั้งนี้ บริษัทเชื่อมั่นว่าภาคอุตสาหกรรม Self-Storage ในประเทศไทยยังมีศักยภาพ และ สามารถขยายตัวได้อีกมากเมื่อเทียบกับต่างประเทศ  ทั้งปัจจัยด้านปริมาณความต้องการของผู้ใช้บริการที่มากกว่าจำนวนผู้ให้บริการ, ไลฟ์สไตล์การใช้ชีวิตของผู้คนในเมือง และ การเติบโตของธุรกิจออนไลน์ ถือเป็นโอกาสที่ดีของบริษัทในการสร้างการเติบโตเช่นเดียวกัน” นายภักดี กล่าวเพิ่มเติม

Cr. https://stockfocusnews.com/archives/174488

24 Aug 2021
WHA เข้าถือหุ้น 29.40% ใน สตอเรจ เอเชีย ขยายธุรกิจ Self-Storage

WHA รุกลงทุน “สตอเรจ เอเชีย” ผู้ให้บริการให้เช่าพื้นที่จัดเก็บทรัพย์สินส่วนบุคคลระดับพรีเมียม ภายใต้แบรนด์ “i-Store Self Storage” ในสัดส่วน 29.40% เดินหน้าต่อยอดธุรกิจโลจิสติกส์ นำเทคโนโลยีสมัยใหม่ช่วยพัฒนาผลิตภัณฑ์-การให้บริการครบวงจร ตอบสนองความต้องการลูกค้า รองรับการเติบโตอย่างยั่งยืน

          บริษัท ดับบลิวเอชเอ คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ WHA ผู้นำอันดับหนึ่งในการให้บริการครบวงจรด้านโลจิสติกส์ นิคมอุตสาหกรรม และการให้บริการสาธารณูปโภคของประเทศไทย ประกาศเข้าถือหุ้น 29.40% ในบริษัท สตอเรจ เอเชีย จำกัด (สตอเรจ เอเชีย) ผู้ให้บริการให้เช่าพื้นที่จัดเก็บทรัพย์สินส่วนบุคคลระดับพรีเมียม ภายใต้แบรนด์ “i-Store Self Storage” โดยการเข้าถือหุ้นครั้งนี้ของดับบลิวเอชเอ กรุ๊ป ถือเป็นหนึ่งในกลยุทธ์ของบริษัททั้งการเข้าลงทุนและการขยายบริการด้านโลจิสติกส์เพื่อตอบสนองความต้องการใหม่ๆ ที่เกิดขึ้นตามการเปลี่ยนแปลงของเมกะเทรนด์ต่างๆ ตลอดจนการสร้างมูลค่าและคุณภาพที่มากยิ่งขึ้นให้แก่ผลิตภัณฑ์และการให้บริการของดับบลิวเอชเอ กรุ๊ป

          ทั้งนี้ในฐานะผู้นำในการให้บริการครบวงจรด้านโลจิสติกส์ นิคมอุตสาหกรรม และการให้บริการสาธารณูปโภคของประเทศไทย ดับบลิวเอชเอ กรุ๊ป มีความมุ่งมั่นในการขยายธุรกิจอย่างต่อเนื่องเพื่อสร้างสรรค์ผลิตภัณฑ์และบริการที่มีมูลค่าเพิ่ม ผ่านการประยุกต์ใช้นวัตกรรม และเทคโนโลยีสมัยใหม่ เพื่อสนับสนุนการพัฒนาผลิตภัณฑ์ และการให้บริการที่ครบวงจร สามารถตอบสนองต่อความต้องการลูกค้า พร้อมต่อยอดการเติบโตอย่างยั่งยืนทั้งในประเทศไทยและภูมิภาคต่างๆ

          โดยดับบลิวเอชเอ กรุ๊ป ได้เล็งเห็นโอกาสในการเติบโตของธุรกิจการจัดเก็บทรัพย์สินส่วนบุคคล (Self-Storage) ที่กำลังเป็นที่ต้องการอย่างมากในปัจจุบัน และมีแนวโน้มเติบโตอย่างต่อเนื่องในอนาคต เนื่องจากปัจจุบันผู้ที่อาศัยและทำงานอยู่ในเมืองมักประสบปัญหาในการจัดการพื้นที่เก็บของ ดังนั้น ดับบลิวเอชเอ กรุ๊ป จึงมองเห็นโอกาสการเติบโตในธุรกิจการให้บริการจัดเก็บทรัพย์สินระดับพรีเมียม และได้มีการตัดสินใจลงทุนในบริษัท สตอเรจ เอเชีย จำกัด ซึ่งเป็นผู้ให้บริการชั้นนำของไทยในธุรกิจดังกล่าว

          สำหรับบริษัท สตอเรจ เอเชีย จำกัด ก่อตั้งขึ้นในปี 2558 เพื่อดำเนินธุรกิจการให้บริการให้เช่าพื้นที่จัดเก็บทรัพย์สินส่วนบุคคล ภายใต้แบรนด์ “i-Store Self Storage” ที่ให้บริการด้านการจัดเก็บ และปกป้องดูแลทรัพย์สินของลูกค้าอย่างมีประสิทธิภาพสำหรับลูกค้าทั้งรายบุคคล และองค์กรที่กำลังมองหาพื้นที่ปลอดภัยสำหรับการจัดเก็บทรัพย์สินมีค่า

          ทั้งนี้ ลูกค้าหรือผู้ใช้บริการสามารถเลือกขนาดพื้นที่การจัดเก็บได้ตามความต้องการและความเหมาะสม โดยปัจจุบัน สตอเรจ เอเชีย มีให้บริการทั้งสิ้น 2 สาขา ได้แก่ สีลม และสุขุมวิท 24 และในไตรมาส 1 ปี 2565 จะมีการเปิด 2 สาขาใหม่ที่สุขุมวิท 71 และพัทยา รวมถึงยังมีแผนการขยายสาขาทั่วประเทศต่อไปในอนาคต โดยความร่วมมือทางธุรกิจระหว่างดับบลิวเอชเอ กรุ๊ป และสตอเรจ เอเชียครั้งนี้ เป็นไปเพื่อการพัฒนาและสร้างสรรค์บริการต่างๆ ที่มีมูลค่าเพิ่มให้กับลูกค้า เพื่อสนองต่อความต้องการของลูกค้าในแต่ละรายให้ครบวงจรมากยิ่งขึ้น

          นางสาวจรีพร จารุกรสกุล ประธานคณะกรรมการบริษัท และประธานเจ้าหน้าที่บริหารกลุ่ม WHA กล่าวว่า ดับบลิวเอชเอ กรุ๊ป มีความยินดีเป็นอย่างยิ่งในการร่วมมือกับพันธมิตรใหม่อย่างสตอเรจ เอเชีย โดยเราจะนำเทคโนโลยี และนวัตกรรมต่างๆ รวมทั้งความเชี่ยวชาญและประสบการณ์ต่างๆ ที่เรามีมาใช้ในการพัฒนาธุรกิจการให้บริการพื้นที่จัดเก็บทรัพย์สินส่วนบุคคลที่เราได้เข้าลงทุนครั้งนี้ให้มีประสิทธิภาพและครบวงจรยิ่งขึ้น พร้อมกันนี้ เรามุ่งมั่นที่จะขับเคลื่อนธุรกิจให้เติบโตอย่างยั่งยืนร่วมกับพันธมิตรเพื่อรองรับความต้องการใหม่ๆ ของลูกค้า ผู้บริโภค และพร้อมรับมือต่อการเปลี่ยนแปลงต่างๆ ที่จะเกิดขึ้นอย่างรวดเร็ว

          นอกจากนี้ ความร่วมมือในครั้งนี้ยังถือเป็นการต่อยอดธุรกิจโลจิสติกส์จากธุรกิจเดิมของเราเพื่อให้บริการที่ครบวงจรมากขึ้น ตลอดจนผนึกกำลังเพื่อสร้างสรรค์ผลิตภัณฑ์ที่มีมูลค่าเพิ่ม และนำเสนอบริการที่เปี่ยมด้วยนวัตกรรม โดยในอีก 2-3 ปีข้างหน้า ดับบลิวเอชเอ กรุ๊ป ยังคงมองหาโอกาสในการลงทุนใหม่ๆ ร่วมกับพันธมิตรชั้นนำเพื่อขยายธุรกิจ และส่งเสริมศักยภาพและการเติบโตของประเทศและภูมิภาคอย่างยั่งยืน

ด้าน นายภักดี อนิวรรตน์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและผู้ก่อตั้งบริษัท สตอเรจ เอเชีย จำกัด กล่าวว่า การได้ร่วมมือกับดับบลิวเอชเอ กรุ๊ป ที่เป็นผู้นำอันดับหนึ่งในการให้บริการครบวงจรด้านโลจิสติกส์ นิคมอุตสาหกรรม และการให้บริการสาธารณูปโภคของประเทศไทยมาเป็นพันธมิตรทางธุรกิจครั้งนี้นับเป็นโอกาสที่ดีในการขยายธุรกิจครั้งสำคัญของสตอเรจ เอเชีย ทำให้เราสามารถขยายฐานลูกค้าได้มากขึ้น พร้อมต่อการเติบโตและสามารถสร้างสรรค์พัฒนาบริการใหม่ๆ ให้ครบวงจรยิ่งขึ้น ร่วมกับดับบลิวเอชเอ กรุ๊ป
 

ที่มา: https://www.kaohoon.com/news/471846

12 Apr 2021
โอกาสการเติบโตของ Self-Storage ในสถานการณ์โควิด-19

ด้วยปัจจัยที่ทำให้เกิดการพลิกผันของสถานการณ์ ภายใต้ผลกระทบจากการระบาดของสถานการณ์COVID-19  ได้สร้างโอกาสการเติบโตของอุตสาหกรรม Self Storage อันเนื่องมาจากการย้ายถิ่นฐาน การปรับปรุงที่อยู่อาศัย การทำงาน รวมไปถึงการใช้ชีวิตในรูปแบบใหม่ที่กำลังจะเกิดขึ้น จะเป็นปัจจัยหลักของการเปลี่ยนแปลงของธุรกิจ Self Storage ได้อย่างไร

         นับตั้งแต่ชีวิตของเราถูกเปลี่ยนแปลงไปด้วยสถานการณ์ของ COVID-19 ตลอดช่วงระยะเวลา 1 ปี นั้น มีธุรกิจหลายๆ อย่างได้รับผลกระทบที่เป็นเชิงลบ จำนวนมาก แต่สำหรับอุตสาหกรรม Self-Storage อย่างน้อยในทางปฏิบัติเรื่องการเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมการใช้ชีวิตที่เปลี่ยนแปลง มองว่าการแพร่ระบาดในครั้งนี้จะก่อให้เกิดการเติบโตของธุรกิจ

         จากมาตรการ Work From Home เพื่อช่วยลดการกระจายของโรคระบาด ผู้ให้บริการ Self-Storage หลายรายได้รับประโยชน์จากการที่กลุ่มคนที่ต้องการเคลียร์พื้นที่ในบ้านเพื่อสร้างเป็นพื้นที่ในการทำงาน ถึงแม้ว่าเราจะมีวัคซีนในการป้องกันโรคหรือการเปิดสำนักงานไปบ้างแล้ว ก็ไม่ได้หมายความว่าทุกคนจะกลับไปใช้ชีวิตในการเดินทางแบบเต็มเวลาเหมือนเดิม อย่างน้อย บริษัทฯ บางแห่งก็มีแนวโน้มในการปรับใช้แนวทางดังกล่าวกลับมาเหมือนเดิมและผสมผสานการทำงานแบบ Work From Home เพื่อให้องค์กรก้าวไปข้างหน้า ซึ่งหมายความว่าผู้ใช้บริการ Self-Storage จากที่เคยเช่าระยะเวลาสั้นๆ จะมีโอกาสกลายเป็นลูกค้าในระยะยาวอีกจำนวนมาก จากผลสำรวจเมื่อปลายปีที่แล้ว เผยแพร่โดย Upwork Inc. แนะนำว่า 25% ของคนทำงานในสหรัฐอเมริกาในปีนี้จะทำงานโดยไม่ต้องเข้าออฟฟิศ โดยมีจำนวนชาวอเมริกันที่ Work From Home เพิ่มขึ้นเป็น 36.2 ล้านคนภายในปี 2568 ถ้าเป็นไปตามรายงานของ CNBC นั่นหมายความว่าจะเพิ่มขึ้น 87% จากก่อนการแพร่ระบาด COVID-19 ผลกระทบด้านอื่นๆ ของการ Work From Home อีกประการหนึ่ง คือ การเพิ่มขึ้นของการย้ายถิ่นฐาน ในระหว่างจุดเริ่มต้นของการระบาดเมื่อเดือนมีนาคมถึงเดือนตุลาคมที่ผ่านมา โดยเฉพาะชาวอเมริกันมีมากถึงจำนวน 8.93 ล้านคน จากการตรวจสอบข้อมูลการเปลี่ยนแปลงที่อยู่สำหรับบริการไปรษณีย์ของสหรัฐอเมริกาโดย National Association of Realtors (NAR) จากการเปรียบเทียบมีจำนวนเพิ่มขึ้นตลอดทั้งปีอยู่ที่ 94,000 คน เนื่องจากปัจจัยสถานการณ์ทั้งหมดที่มีการกระตุ้นให้เกิดการย้ายถิ่นฐาน

         ตามรายงานของ CNN ได้รับข้อมูลจาก Atlas Van Lines และ U-Haul ระบุว่า New York และ California ได้รับผลกระทบหนักที่สุดจากผู้คนที่ย้ายหนีจากรัฐของตนเองเพื่อหาที่อยู่อาศัยที่ถูกกว่า บริเวณอ่าวที่ซึ่งเป็นจุดศูนย์กลางของการบินจาก California กับ Austin, Texas; Seattle, New York City และ Portland เป็นจุดหมายปลายทางขาออกอันดับต้นๆ อ้างอิงจาก moveBuddha.com ซึ่งเป็นเว็บไซต์ในการจองบริษัทฯ ซึ่งทำให้บริการขนย้ายได้รับประโยชน์จากการย้ายถิ่นฐานบริเวณดังกล่าว ได้แก่ Texas, Washington, New York and Colorado ในขณะเดียวกัน Atlas รายงานว่า 5 อันดับแรกของรัฐที่มีการเคลื่อนย้ายในปีที่แล้ว ได้แก่ Idaho, North Carolina, Maine, New Hampshire and Alabama.

         จากการเปลี่ยนแปลงดังกล่าวแสดงให้เห็นถึงความต้องการในการจัดเก็บสิ่งของด้วยตนเอง (Self-Storage) ผู้ประกอบการในเนวาดาตอนเหนือเป็นหนึ่งในผู้ที่รายงานการเพิ่มขึ้นของธุรกิจที่แข็งแกร่งในช่วงการระบาดของโรค และไม่เพียงแต่มาจากผู้ที่อยู่อาศัยใหม่ที่เดินทางมาจากนอกรัฐ นอกจากนี้ยังมีรายงานว่า ธุรกิจ Startups ที่กำลังมองหาสถานที่จัดเก็บสินค้าเป็นปัจจัยผลักดัน ในระดับประเทศจำนวน Startups เพิ่มขึ้น 9.6% ระหว่างเดือนมีนาคม 2561 ถึงมีนาคม 2563 ตามข้อมูลของ Statista ในขณะที่ผู้ประกอบการค่อนข้างคงที่ในช่วงปี 2559 ถึง 2561 ผลกระทบทางเศรษฐกิจอันเนื่องมาจากวิกฤติสุขภาพได้สร้างความเสียหายให้กับธุรกิจจำนวนมาก แต่หากจิตวิญญาณของผู้ประกอบการยังคงขับเคลื่อนธุรกิจ Startups นั่นก็เป็นอีกสัญญาณที่น่าสนับสนุนสำหรับผู้ประกอบการในอุตสาหกรรม Self-Storage

         ในขณะเดียวกันเราต้องพิจารณาด้วยว่าการเปลี่ยนแปลงที่อยู่อาศัยและการย้ายถิ่นฐานจะช่วยเพิ่มระยะเวลาการใช้งาน ความเปลี่ยนแปลงในรูปแบบการให้บริการและโอกาสในการเติบโตของกิจการในอุตสหรกรรมหรือไม่ อีกปัจจัยหนึ่งคือธุรกิจหน้าร้านจำนวนมากในย่านศูนย์กลางธุรกิจ ใจกลางเมือง อาจจะไม่สามารถกลับมาเปิดให้บริการ ซึ่งจะทำให้โอกาสที่ Self-Storage จะสามารถเปิดให้บริการแบบผสมผสาน โดยให้ร้านค้าและผู้ให้บริการรายอื่น ๆ สามารถเช่าพื้นที่เชิงพาณิชย์ได้ในราคาประหยัด

         เราได้เห็นแล้วว่าการแพร่ระบาดของโรค COVID-19 ได้ผลักดันให้ผู้ประกอบการ Self Storageปรับปรุงการให้บริการและสร้างประสบการณ์เพื่อดึงดูดลูกค้าในการเช่าและย้ายเข้ามา รวมทั้งเพิ่มความรวดเร็วในการนำเทคโนโลยีใหม่ๆ มาใช้เพื่อเพิ่มความสะดวกสบายให้กับผู้เช่า รวมถึงเพิ่มความปลอดภัยและช่วยให้สามารถจัดการสิ่งอำนวยความสะดวกต่างๆ ได้ดียิ่งขึ้น

         แม้ในปีที่ผ่านมาจะเผชิญกับความยากลำบาก แต่อุตสาหกรรม Self-Storage ก็ได้พิสูจน์ให้เห็นแล้วว่ามีความสำคัญและมีความยืดหยุ่นสูง ปัจจัยทั้งสองสิ่งนี้คือสิ่งที่ควรนำมาซึ่งกำลังใจและแรงจูงใจมากมายสำหรับในหลายๆ เดือนข้างหน้า

แปลบทความจาก : insideselfstorage

         คุณภักดี อนิวรรตน์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารบริษัท สตอเรจ เอเชีย จำกัด ผู้ให้บริการ i-Store Self Storage ในประเทศไทย ได้ให้ความเห็นเพิ่มเติมเกี่ยวกับสถานการณ์โควิด-19 ในประเทศไทยและภาพรวมของการเติบโตธุรกิจ Self Storage ในประเทศไทยว่า ตามที่เกิดการแพร่ระบาดของไวรัส COVID-19 ตั้งแต่ต้นปี 2563 ซึ่งทำให้ธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ได้รับผลกระทบอย่างรุนแรงโดยเฉพาะกลุ่ม Hospitality อันเนื่องมาจากการท่องเที่ยวทั่วโลกหยุดชะงัก ในส่วนธุรกิจอสังหาฯ ประเภทให้เช่าพื้นที่ เช่น ห้างสรรพสินค้าอาคารสำนักงาน โกดัง ก็ได้รับผลกระทบจากการหยุดชะงักของการดำเนินธุรกิจเช่นกัน ในส่วนของธุรกิจ Self Storage ก็ได้รับผลกระทบเชิงลบบ้างในช่วงเริ่มต้นของการแพร่ระบาด แต่ ณ ปัจจุบันการกลับเข้ามาใช้บริการเช่า Self Storage ก็ฟื้นตัวขึ้น จากกลุ่มลูกค้าคนไทยที่เกิดการรับรู้เกี่ยวกับการใช้บริการเพิ่มมากขึ้น และดีกว่าก่อนเกิดการแพร่ระบาด โดยเหตุผลมาจากหลายๆ ปัจจัย เช่น การรีโนเวทคอนโด หรือ บ้าน เพื่อเพิ่มพื้นที่ใช้สอยให้เหมาะสมกับการ WFH การเติบโตอย่างรวดเร็วของธุรกิจอีคอมเมิร์ซ เป็นต้น ซึ่งปัจจัยบวกเหล่านี้ล้วนส่งผลให้ความต้องการเช่า Self Storage เพิ่มสูงขึ้น การเช่าส่วนใหญ่จะเป็นการเช่าระยะยาวมากกว่า 1 ปีขึ้นไป เนื่องจากพฤติกรรมของผู้ใช้บริการจะนิยมนำของใช้ส่วนตัวมาเก็บเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ หลังจากเริ่มนำสิ่งของเข้ามาเก็บในช่วงแรก ในส่วนการปรับตัวเรื่องการให้บริการ i-Store Self Storage ได้มีการนำเทคโนโลยีด้านต่างๆ เช่น โปรแกรม Google street view ทดแทนการเข้ามาเยี่ยมชมสถานที่จริงของลูกค้า การทำ VDO สำหรับตัวอย่างของการเก็บของและโปรแกรมการคำนวนขนาดห้องด้วยตัวเอง ทำให้ลูกค้าสามารถตัดสินใจในการใช้บริการได้ง่ายมากขึ้น จากสถานการณ์ต่างๆ ที่ผ่านมาทำให้เชื่อได้ว่าธุรกิจ Self Storage เป็นอสังหาริมทรัพย์ทางเลือกที่สามารถทนทานต่อวิกฤติเศรษฐกิจที่เกิดจากหลากหลายปัจจัยลบ และยังเป็นธุรกิจที่ยังมีโอกาสเติบโตไปได้อีกมากตาม Mega trend “Urbanization” ได้เป็นอย่างดี

23 Mar 2021
i-Store Self Storage partners with SME D Bank, to expand their Self Storage business in Bangkok’s city center and other major cities across Thailand

i-Store Self Storage joint investment with SME D Bank trust, help’s fund the expansion of their storage rental business to include 3 new facilities. This year’s income has grown to exceed 30 million baht, paving the way for a potential listing on the Stock Exchange of Thailand (SET) in 2025.

          Mr. Pakdee Anivat, the companies Chief Executive Officer and Founder of Storage Ara Co., Ltd., a leading premium self-storage rental provider operating under the brand i-Store Self Storage. Mr. Pakdee has revealed that the company has received interest from both government and institutional investors and can confirm that they have received a 30 million baht investment through a venture capital trust fund. The SME Venture Fund (division 2), established by the Small and Medium Enterprise Development Bank of Thailand (SME) or also known as SME D Bank, managed by PPM Advisory Group.

          The trust aims to seek investment with entrepreneurs operating small and medium sizes businesses with an S-curved business group consisting of 5 industry clusters in accordance with government policies.

          After the company has received the said investment, the company plans to exponential increase growth in 2021 with revenue target no less than 30 million baht. The company is also drawing up plans to list on the Stock Exchange of Thailand (SET) as early as 2025.

          Mr. Pakdee claims that the expansion meets the needs of the customers in Bangkok and other major cities across Thailand. Currently the company operates 2 branches in Bangkok’s city center. The first branch was opened in Silom, at the center of Bangkok business district with the second branch on Sukhumvit 24. The company plans to expand and open an additional 3 branches in 2021; one in the booming On Nut area in Bangkok and the other two planned for Pattaya City.

          To keep up with the rapid expansion in other major cities, the company has decided to adapt their operating model to also include Storage Management. This new model will be used at their planned branches in Central Pattaya and Jomtien Beach.  The company believes the business expansion model will help the company grow. It will also provide alternative investment opportunities for landlords with unused land or buildings that are looking to generate additional income without needing to manage and operate the branch themselves.

          Mr Pakdee says “With the opening of i-Store Self Storage Services, we are still very selective of the locations and require it to be in the center of each city. This is especially important for our customers as they can easily travel to the facility by walking, by car or public transportation. When opening a new branch, i-Store Self Storage focus primarily on the location of each branch as it is important that our customers can easily find and access the facility either by car or public transportation.

          The most important thing is to provide value for the customers who come to use the service. To do this we have to understand the customer’s requirements and to build trust by maintaining the same service standards across all of our branches. We believe that by making a good impression, it will make them feel that i-Store Self Storage is like a third home and this is important as they are entrusting us with their personal belongings.”

          We notice a growing trend in the storage rental businesses indicating that storage rental is becoming increasingly popular with younger consumers that live in large cities. People living in cities such as Bangkok has seen apartment and condominium sizes continue to shrink year on year whilst rental prices stay the same or have increased. This makes it harder and harder for renters to find enough space to store their belongings at home.

          Due to the coronavirus outbreak, the consumer demographics have change, with the Thai consumer increasing to 60% from the original 40%. This indicates that the Thai customers are now more familiar with the business and better understands the benefits of using Self Storage. In addition we have also noticed that consumers are also starting to value their living and looking for alternative locations for storing their belongings. Self-Storage is now one of the first things consumers look for when looking for storage rentals as it is convenient and can be accessed 24 hours a day.

          At the same time, consumer behavior is changing rapidly. To keep up with the ever changing consumer requirements, the company has developed a service model that makes storing items easier and more convenient than ever. The service is called Door To Door Storage and is operated under the i-StoreGo brand. To use the service customers can contact the staff to come pick up their belongings directly from their home. When the customer wants to use the said item, they need to notify the staff and the items will be delivered back to their home. The i-StoreGo company’s slogan is STORE Anywhere REQUEST Anytime. The service is suitable for customers who are looking for convenience and do not want to waste time travelling to a storage facility. You can almost compare it to storage on your mobile and searching information from website.

          Ms. Nartnaree Rattapat President of Small and Medium Enterprise Development Bank of Thailand (SME D Bank) added that the Bank has sponsored the joint investment in i-Store Self Storage as it sees an opportunity for business growth. The management team led by Mr. Pakdee Anivat, Chief Executive Officer has a very clear vision for the future of his company and how he plans to get there.

20 Mar 2020
i-Store เชี่อมั่นในแนวทางการลงทุน ESG เลือก อเบอร์ดีน สแตนดาร์ด บริหารกองทุนสำรองเลี้ยงชีพ

 i-Store เชี่อมั่นในแนวทางการลงทุน ESG เลือก อเบอร์ดีน สแตนดาร์ด บริหารกองทุนสำรองเลี้ยงชีพ

          Storage Asia Co.,Ltd ผู้ให้บริการเช่าห้องเก็บของ รวมทั้ง Wine Storage ระดับพรีเมี่ยมของไทย แบรนด์ i-Store Self Storage  เล็งเห็นความสำคัญของการออมระยะยาวให้แก่พนักงาน เชื่อมั่นในแนวทางการลงทุน ตามมาตรฐานระดับสากล ผสมผสาน ESG เลือก อเบอร์ดีน สแตนดาร์ด เป็นผู้บริหารจัดการกองทุนสำรองเลี้ยงชีพ 

          โดยนายภักดี อนิวรรตน์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท สตอเรจ เอเชีย จำกัด ถ่ายภาพคู่กับ นายโรเบิร์ต แพนโนลาซ่า ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร และ นางสิริกร สุวรรณโกสีย์ หัวหน้าฝ่ายลูกค้าสถาบันของ อเบอร์ดีน สแตนดาร์ด (ประเทศไทย) พร้อมส่งมอบสัญญาอย่างเป็นทางการเมื่อเร็ว ๆ นี้

15 Feb 2020
เปิดโกดังคุยกับ i-Store Self Storage ธุรกิจอสังหาริมทรัพย์รูปแบบใหม่ที่รู้ใจคนชอบเก็บ

เมื่อความแออัดของสิ่งปลูกสร้างที่ยังไม่ได้มีการจัดการอย่างเป็นระบบทำให้จำนวนพื้นที่ในการอยู่อาศัยลดน้อยลงและการใช้ชีวิตบนตึกสูงได้กลายมาเป็นวีถีใหม่ของคนเมือง แต่ถ้าหากลองนึกถึงพื้นที่ประเภทอสังหาริมทรัพย์ เราอาจนึกถึงที่ดินหรือสิ่งปลูกสร้างอื่น ๆ อย่างคอนโด บ้านจัดสรร สำนักงาน และโรงงานอุตสาหกรรมต่าง ๆ ขณะที่พื้นที่ในการจัดเก็บอย่างโกดังหรือพื้นที่ให้เช่าเก็บของก็เป็นอีกหนึ่งธุรกิจด้านอสังหาริมทรัพย์ที่ไม่อาจมองข้ามสำหรับการใช้ชีวิตในวันนี้ด้วยเช่นกัน

          เราได้พูดคุยกับคุณภักดี อนิวรรตน์ CEO & Co-Founder ของ I-Store Self Storage ธุรกิจอสังหาริมทรัพย์รูปแบบใหม่ที่เกี่ยวข้องกับการจัดเก็บและจัดสรรพื้นที่ให้เกิดประโยชน์สูงสุดทั้งต่อผู้ใช้งานและต่อพื้นที่ในสังคมอย่างยั่งยืน

จากปัญหาเรื่องพื้นที่สู่ธุรกิจรับฝากของ

          คุณภักดีเล่าถึงจุดเริ่มต้นธุรกิจ I-Store Self Storage ไว้ว่า เกิดจากความสนใจที่จะเป็นนักพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ของตัวเองที่ทำให้ได้มีโอกาสเข้าอบรมในหลักสูตรต่าง ๆ รวมถึงได้เรียนรู้จากผู้มีประสบการณ์ในกลุ่มธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ และแลกเปลี่ยนความรู้กับเพื่อน ๆ ที่เป็นนักพัฒนาที่ดินจำนวนมาก จนมองเห็นโอกาสในการพัฒนาพื้นที่ที่ไม่ได้จำกัดอยู่เพียงการสร้างอาคารให้ซื้อหรือเช่าเพื่อการอยู่อาศัย แต่แนวคิดเรื่องการจัดเก็บ (Self Storage) ก็เป็นอีกหนึ่งไอเดียที่ได้มาจากการไปดูงานของผู้ประกอบการต่างประเทศ ที่เขาริเริ่มและดำเนินธุรกิจประเภทนี้อยู่แล้ว

          “โดยส่วนตัวแล้วผมคิดว่าธุรกิจอสังหาริมทรัพย์มีหลากหลายรูปแบบ แต่ผมอยากทำธุรกิจที่มีรายได้แบบต่อเนื่อง ซึ่งก็มีหลายประเภท เช่น หอพัก อพาร์ตเมนต์ โรงแรม โกดัง หรือแม้แต่ศูนย์ข้อมูล (Data Center) แต่ตอนนั้นผมมองว่าธุรกิจที่เรียกว่า Self Storage เป็นธุรกิจที่ยังมีคนทำไม่ค่อยเยอะ คู่แข่งทางการค้าก็ยังมีน้อยราย รวมถึงสภาพสังคมไทยที่เป็นแบบสังคมเมือง (Urbanisation) มากขึ้น ทำให้มีโอกาสสูงที่คนเมืองที่จะเกิดปัญหาเรื่องพื้นที่ที่มีอยู่อย่างจำกัด รวมถึงตอนนี้ผู้คนก็อาศัยอยู่ในคอนโดมิเนียมกันมากขึ้น แต่ในขณะเดียวกันที่อยู่อาศัยแบบนี้ก็มีขนาดเล็กลงเรื่อย ๆ ทำให้คนอาจต้องการพื้นที่สำหรับการเก็บของมากขึ้น จุดนี้ผมจึงคิดว่าน่าจะเป็นโอกาสที่ธุรกิจประเภทนี้จะสามารถเติบโตได้อีกมาก ถ้าเทียบกับในหลาย ๆ ประเทศในเอเชียอย่างเช่น ฮ่องกง สิงคโปร์ ญี่ปุ่น เป็นต้น แต่หากไปเทียบกับฝั่งอเมริกาหรือยุโรป เขาเริ่มทำธุรกิจประเภทนี้มาก่อนเราอาจจะหลายสิบปีมาแล้ว ซึ่งบางประเทศก็ไม่ได้มีปัญหาเรื่องพื้นที่ แต่ธุรกิจ Self Storage ก็ยังเติบโตขึ้นได้เรื่อย ๆ ”

บ้านหลังที่สามของข้าวของที่ทิ้งไม่ลง

          เมื่อคนย้ายเข้ามาอยู่บ้านหรือคอนโดมิเนียมในเมือง พื้นที่ใช้สอยในการอยู่อาศัยก็มักจะแคบและจำกัด สวนทางกับกระแสทุนนิยมที่ผู้คนต่างบริโภคด้วยการจับจ่ายใช้สอยข้าวของอยู่อย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะครอบครัวขนาดใหญ่ที่จำเป็นต้องมีพื้นที่สำหรับการอยู่อาศัยและก็มีความจำเป็นต้องมีพื้นที่สำหรับจัดเก็บสิ่งอุปโภคบริโภคให้เพียงพอกับสมาชิกแต่ละคนในครอบครัว และเพราะ “การทิ้ง” อาจไม่ใช่เรื่องง่ายสำหรับทุกกรณี โดยเฉพาะของบางชิ้นที่มีคุณค่าทางจิตใจ หรือบรรดาของสะสมชิ้นโปรด ดังนั้นคนจำนวนมากจึงต้องการพื้นที่ในการเก็บสิ่งของเหล่านี้โดยที่ไม่ต้องสูญเสียพื้นที่ใช้สอยในการอยู่อาศัย และยังต้องการความมั่นใจว่าสิ่งของของเขาจะถูกเก็บรักษาไว้อย่างดีโดยที่สามารถไปหยิบหามาใช้ได้ทุกเมื่อที่ต้องการ

          “i-Store Self Storage เป็นบริการรู้ใจที่จะเข้ามาแก้ไขความขัดแย้งระหว่างความต้องการเก็บรักษาสิ่งของ กับปัญหาเรื่องพื้นที่ที่จำกัด โดยบริการของเราจะมีลักษณะเหมือนกับโกดังหรือคลังสินค้าขนาดเล็ก ที่สามารถเก็บของได้หลากหลายตามความต้องการของลูกค้า ถ้าลูกค้าต้องการเก็บของส่วนตัว เฟอร์นิเจอร์ สินค้า หรือแม้แต่ไวน์ ก็สามารถที่จะมาใช้บริการของเราเป็นพื้นที่ในการเก็บของแทนที่จะเก็บไว้ที่คอนโด ที่บ้าน หรือต้องไปเช่าโกดังขนาดใหญ่นอกเมือง” ปัจจุบัน i-Store Self Storage เปิดให้บริการ 2 สาขา คือ สาขาสีลม และสาขาสุขุมวิท 24 ซึ่งเป็นพื้นที่ที่อยู่ใจกลางเมือง สามารถเดินทางมาได้สะดวก รวมถึงมีที่จอดรถไว้สำหรับลูกค้าที่เข้ามาใช้บริการโดยเฉพาะ

          “เราไม่อยากให้ลูกค้ารู้สึกเหมือนกับเราเป็นแค่สถานที่ที่ช่วยเขาเก็บรักษาข้าวของเท่านั้น แต่เราอยากให้ i-Store Self Storage เป็นเหมือนบ้านหลังที่สามของเขา โดยที่เขาสามารถจะเข้ามาจัดสรรพื้นที่ในการเก็บของได้ด้วยตนเอง สามารถเข้า-ออกพื้นที่ส่วนตัวได้ตลอด 24 ชั่วโมง ทำให้ลูกค้ารู้สึกเหมือนกับการนำของมาเก็บไว้ที่บ้าน ที่นี่เรามีระบบรักษาความปลอดภัยตลอด 24 ชั่วโมง เพื่อทำให้ลูกค้ามั่นใจว่าของที่เขานำมาเก็บกับเรานั้นจะได้รับการรักษาความปลอดภัยเป็นอย่างดี”

รูปแบบการบริการที่หลากหลายและตอบโจทย์

          นอกจากที่ I-Store Self Storage ทั้ง 2 สาขา จะตั้งอยู่ใจกลางเมือง ทำให้ลูกค้าสามารถเดินทางมาเก็บและนำของออกไปได้อย่างสะดวกสบายทุกเมื่อที่ต้องการแล้ว ที่นี่ยังจัดแบ่งรูปแบบการให้บริการที่สามารถตอบสนองความต้องการของลูกค้าในแต่ละกลุ่มได้อย่างครบครัน โดยปัจจุบันได้แบ่งการบริการออกเป็น 4 ประเภท ได้แก่

  • Personal Storageสำหรับเก็บของใช้ส่วนตัวต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็นเฟอร์นิเจอร์ อุปกรณ์กีฬา เครื่องดนตรี กระเป๋าแบรนด์เนม นาฬิกา หรือแม้กระทั่งรถยนต์ ก็สามารถนำมาเก็บได้ตามความต้องการ
  • Business Storageส่วนใหญ่จะเหมาะกับกลุ่มลูกค้าที่ต้องการเก็บของจำนวนมาก เช่น สินค้าหรือวัตถุดิบสำหรับธุรกิจ หรือธุรกิจสำนักงานที่ต้องการพื้นที่ในการเก็บข้าวของและอุปกรณ์สำนักงานต่าง ๆ แม้แต่โรงเรียนหรือห้องสมุดที่นำหนังสือมาเก็บไว้ก็มี
  • Wine storageเหมาะกับลูกค้าที่ชื่นชอบรสชาติของไวน์ หรือต้องการมีห้องเก็บไวน์ (Wine Cellar) ที่อยู่ในเมือง ซึ่งสามารถนำมาเก็บหรือนำออกไปดื่มสังสรรค์ได้สะดวก แม้ว่าลูกค้าหลายคนที่มาใช้บริการห้องเก็บไวน์ของเราจะมีไวน์เซลล่าที่บ้านอยู่แล้ว แต่หลายคนก็มีปริมาณเยอะเป็นหลักร้อยถึงหลักพันขวด ก็อาจจะต้องแบ่งมาเก็บกับเรา นอกจากนี้สถานที่ตั้งของเราก็อยู่ใกล้ร้านอาหารและสถานที่จัดงานสังสรรค์ค่อนข้างเยอะ ทำให้ลูกค้ารู้สึกสะดวกที่จะเก็บรักษาไวน์ไว้ที่นี่
  • ในส่วนของห้องเก็บไวน์ มียูนิตแยกที่เหมือนเซลล่าส่วนตัว และเปิดเครื่องปรับอากาศเพื่อควบคุมอุณหภูมิตามมาตรฐานของห้องไวน์เซลล่า มีเครื่องควบคุมความชื้นและเครื่องสำรองไฟฟ้าที่มั่นใจได้ว่าไวน์ทุกขวดที่นำมาเก็บไว้กับเราจะถูกเก็บรักษาอย่างดี
  • Box Storage เป็นบริการใหม่ล่าสุดที่พัฒนาขึ้นมาให้กลุ่มลูกค้าที่ต้องการเก็บของไม่เยอะมาก และชิ้นไม่ใหญ่มาก โดยบริษัทจะส่งกล่องขนาด 600x400x300 (mm) ให้ลูกค้าถึงบ้าน เพื่อให้ลูกค้าจัดเก็บข้าวของลงกล่องด้วยตนเอง จากนั้นจะมีพนักงานของเราไปรับกล่องมาเก็บไว้ที่สโตร์ของเรา โดยบริการนี้ลูกค้าสามารถดำเนินการไว้ผ่านเว็บไซต์ของบริษัทที่เรียกว่า i-Store go

อุ่นใจทุกเวลา เก็บรักษาพร้อมรับประกัน

          “เรามอบความสบายใจให้ลูกค้าให้มั่นใจได้ว่ามาเก็บของกับเราแล้วไม่สูญหายแน่นอน เพราะนอกจากจะมีระบบรักษาความปลอดภัยที่รัดกุม กล้องวงจรปิด และพนักงานรักษาความปลอดภัยตลอด 24 ชั่วโมงแล้ว ภายในจะมีล็อกเกอร์หรือพื้นที่เก็บของที่ลูกค้าสามารถเลือกพื้นที่ได้ตามความเหมาะสมอีกทั้งยังเปิดให้ลูกค้าสามารถนำแม่กุญแจของตนเองมาล็อกเพื่อความสบายใจได้อีกชั้น รวมถึงคีย์การ์ดที่สามารถเข้าถึงชั้นเก็บของลูกค้าได้เท่านั้น ซึ่งลูกค้าสามารถมาเอาของออกไปหรือเข้ามาเก็บของได้ตลอดเวลา”

          “นอกจากนี้ทุกยูนิตเรายังมีประกันให้ในวงเงิน 20,000 บาท สำหรับมูลค่าสินค้าหรือความเสียหายที่อาจเกิดขึ้น ในกรณีที่ลูกค้าคิดว่าของที่จะนำมาเก็บมีมูลค่ามากกว่านั้น หรือไม่ต้องการความเสี่ยง ลูกค้าก็สามารถซื้อวงเงินประกันเพิ่มเติมได้ด้วยตนเอง โดย I-Store จะแนะนำตัวแทนประกันให้ติดต่อกันได้โดยตรง”

          กฎเกณฑ์การใช้งานที่ง่ายและสบายใจนี้ มีเงื่อนไขการใช้งานอยู่เพียงเล็กน้อย นั่นคือเกณฑ์ในการรับฝาก ที่นี่ห้ามฝากของที่ผิดกฎหมาย อาวุธ อาหาร หรือสิ่งมีชีวิต โดยที่ลูกค้าต้องลงลายมือชื่อยินยอมว่าจะไม่นำของจำพวกนี้มาเก็บโดยเด็ดขาด

อนาคตธุรกิจเมื่อ Vertical Living กลายเป็นวิถีชีวิตของคนเมือง

          ในอนาคตการอยู่อาศัยในแนวสูงจะได้รับความนิยมมากขึ้น แน่นอนว่าปัญหาเรื่องพื้นที่ที่จำกัดย่อมมีมากขึ้น และอาจส่งผลโดยตรงต่อธุรกิจประเภทนี้ทั้งในแง่บวกและความท้าทายที่ต้องเตรียมรับมือ

          “เราตั้งเป้าไว้ว่า จะขยายสาขา 2 สาขาต่อปี ไปยังพื้นที่ต่าง ๆ ในกรุงเทพมหานคร รวมทั้งหัวเมืองและเมืองท่องเที่ยวต่าง ๆ เช่น พัทยา ภูเก็ต เชียงใหม่ เพราะเราต้องการขยายกลุ่มลูกค้าไปที่นักท่องเที่ยวต่างชาติที่เดินทางมาเที่ยวที่ประเทศไทยเพิ่มด้วย

ส่วนกลุ่มลูกค้าที่เป็นคนรุ่นใหม่ซึ่งไม่ค่อยให้ความสำคัญกับการ “เก็บ” มากเท่าใดนัก ก็กลับเป็นความท้าทายที่ทำให้พบโอกาสบางอย่างที่จะสามารถนำพาธุรกิจเข้าไปเป็นทางเลือกหนึ่งในการแก้ไขปัญหาความไม่อยากเก็บของพวกเขาได้เช่นกัน

          “ผมมองว่าคนรุ่นใหม่มักยอมจ่ายในสิ่งที่ให้ความสะดวกสบายกับเขา บริการ i-Store Go ที่มีลักษณะการให้บริการแบบเดลิเวอรีจึงเกิดขึ้นเพื่อตอบโจทย์ให้สามารถเลือกใช้บริการของเราได้สะดวกขึ้น โดยที่ลูกค้าสามารถจองและจ่ายค่าบริการเป็นรายเดือนผ่านทางเว็บไซต์ได้ด้วยตนเอง ด้วยค่าบริการ เริ่มต้นขั้นต่ำ 3 เดือน 700 บาท และหากเพิ่มระยะเวลาเช่ามากขึ้น ค่าบริการเฉลี่ยแต่ละเดือนก็จะถูกลงไปด้วย”

          “นอกจากนี้เรายังมองในส่วนของการสร้างแฟรนไชส์ และโมเดลการทำธุรกิจแบบแบ่งผลกำไร (Profit Sharing Model) สำหรับผู้ที่สนใจอยากลงทุนโดยใช้ชื่อแบรนด์ของเรา เพราะในบางพื้นที่เราไม่สามารถเข้าไปขยายเองได้หรือหากได้แต่อาจจะต้องใช้เวลานาน ส่วนการร่วมมือกันกับธุรกิจหรือคู่ค้าอื่น ๆ ปัจจุบันเราร่วมมือกับบริษัทอสังหาริมทรัพย์ต่าง ๆ นำบริการของเราไปเป็นสิทธิพิเศษ (Privilege) ให้กับลูกค้าของเขา เช่น มอบส่วนลด หรือโปรโมชันต่างๆ ซึ่งในระยะยาวก็อาจจะมีโครงการที่พัฒนาร่วมกัน มองว่าหากเราเข้าไปมีส่วนร่วมกับแบรนด์พัฒนาอสังหาริมทรัพย์ขนาดใหญ่ได้ จะทำให้เราสามารถเข้าถึงกลุ่มลูกค้าได้เพิ่มขึ้น โดยที่เป็นลูกค้าที่มีความต้องการที่จะใช้บริการของเราจริง ๆ”

เรื่อง : มนันญา ใจมงคล และ จุฑาทิพย์ บัวเขียว I ภาพ : ภีร์รา ดิษฐากรณ์

06 Feb 2020
รายการ Money360 i-Store Self Storage I บริการเช่าห้องเก็บของ

-Store Self Storage I บริการเช่าห้องเก็บของ ตอบโจทย์คนยุคใหม่ ที่มีพื้นที่จำกัด I รายการ Money360

ขอขอบคุณคลิปวิดีโอ จากรายการ Money 360

—————————————————

บริการ Self Storage จาก i-Store มีพื้นที่หลากหลายขนาดตั้งแต่ 0.5 ตรม – 18 ตรม เปิดให้บริการ 2 สาขา ที่สาขาสีลม และสาขาสุขุมวิท 24 สถานที่ใหม่และสะอาด ระบบรักษาความปลอดภัยตลอด 24 ชม. เดินทางง่าย ใกล้รถไฟฟ้า BTS

—————————————————

สนใจสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติม

โทรสาขาสีลม : 062-595-3393

โทรสาขาสุขุมวิท24 : 092-525-8293

www.i-store.co.th

LINE@ : @i-Store

E-mail : info@storage-asia.co.th

FB : i-Store Self Storage

06 Feb 2020
“Self-Storage” ธุรกิจดาวรุ่ง ตู้เซฟคนกรุง…!!

 เมื่อบริบทสังคมเปลี่ยน สอดคล้องพฤติกรรมคนเมืองนิยมอยู่คอนโดมากขึ้น แจ้งเกิดธุรกิจน้องใหม่ “Self-Storage” ห้องเก็บของส่วนตัว แก้ Pain Point ข้อจำกัดพื้นที่คนเมืองกรุง ที่ทุนน้อย-ใหญ่ โดดฮุบโอกาสธุรกิจนี้ !!

          “พื้นใช้สอยมีอย่างจำกัด!!” กำลังเป็นปัญหาสำหรับคนกรุง บ่งชี้ผ่าน “คนยุคใหม่” ที่นิยมเลือกที่อยู่อาศัยที่เน้นความสะดวกสบายในการเดินทางเป็นอันดับแรก หนีปัญหารถติด ตัวเลือกดังกล่าวหนีไม่พ้น “คอนโดมิเนียมย่านใจกลางเมือง” ตามเส้นทางแนวรถไฟฟ้าหลากสาย

          ทว่าได้อย่าง-เสียอย่าง! เนื่องจากคอนโดกลางเมืองราคาแพงระยับ มักมากับข้อจำกัดของพื้นที่ใช้สอย ไม่เหลือพื้นที่ให้เก็บสิ่งของใช้สอยหรือของสะสม อาทิ รองเท้า ไวน์ เหล้า กระเป๋าแบรนด์เนม หรือแม้แต่รถหรู เป็นต้น

สถานการณ์ดังกล่าว ผลักดันให้เกิดธุรกิจน้องใหม่ เพื่อเข้ามา “แก้ปัญหา” (Pain Point) ให้กับคนเมืองกรุง นั่นคือ ธุรกิจ“บริการเช่าห้องเก็บของและทรัพย์สิน”(Self-Storage) ตัวช่วยตอบสนองความต้องการของคนเมืองที่ต้องการพื้นที่เก็บสิ่งของเพิ่มขึ้น

ธุรกิจนี้เดิมคนไทยรู้จักในวงจำกัด ปัจจุบันกำลังแพร่หลาย เห็นได้จากผู้ประกอบการไทยหลายรายโดดมาเล่นในสนามนี้ เช่น บมจ.เจดับเบิ้ลยูดี อินโฟโลจิสติกส์ หรือ JWD ร่วมทุนกับบริษัท Store It! Management จากประเทศสิงคโปร์ รุกธุรกิจ Self-Storage ในไทย โดยปัจจุบันได้เปิดให้บริการ Self-Storage แล้ว 2 สาขา

บริษัท ลีโอ โกลบอล โลจิสติกส์ จำกัด ผู้ให้บริการโลจิสติกส์ครบวงจรที่ครอบคลุมทั่วโลก ต่อมาได้ขยายธุรกิจมาเปิด LEO Self Storage ด้วยระบบ Smart Security & Key card ที่ทันสมัยและปลอดภัยที่สุด เข้าออกได้ตลอด 24 ชั่วโมง ติดถนนพระราม 3 เป็นต้น

สอดคล้องกับ “ภักดี อนิวรรตน์” ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท สตอเรจ เอเชีย จำกัด หนึ่งในผู้ดำเนินธุรกิจให้บริการเช่าห้องเก็บของและทรัพย์สินระดับพรีเมียมของไทย เล่าให้กรุงเทพธุรกิจ BizWeek” ฟังว่า ในปี 2560 มีจำนวนผู้เล่นในธุรกิจ Self-Storage เพียง 5 ราย ผ่านมา 1 ปี พบว่ามีผู้เล่นหน้าใหม่เพิ่มขึ้นมา “เป็น 11 ราย” ในพื้นที่ให้บริการ 15 โลเคชั่น ในกรุงเทพฯ รวมพัทยา , ภูเก็ต , อุดรธานี และหัวหิน โดยส่วนใหญ่จะให้บริการกับผู้ประกอบการต่างชาติ

เนื่องจากในต่างประเทศธุรกิจ Self-Storage เป็นที่นิยมมาก โดยเฉพาะในเมืองใหญ่ของโลกที่ประชากรพักอาศัยอยู่ในคอนโดในเขตเมืองที่มีพื้นที่จำกัด และมีข้อจำกัดในเรื่องพื้นที่เก็บสิ่งของ

อย่างในสหรัฐอเมริกา พฤติกรรมคนอเมริกัน นิยมเปลี่ยนที่อยู่ปล่อย หรือ สไตล์ไม่นิยมเก็บสิ่งของไว้ในบ้านแม้จะพอมีพื้นที่ โดยเฉพาะสิ่งของที่ไม่จำเป็น หรือนานๆนำกลับมาใช้ที ส่วนประเทศที่มีข้อจำกัดเรื่องพื้นที่ คือ สิงคโปร์ ฮ่องกง ญี่ปุ่น เป็นต้น ทำให้หันมาให้ความสนใจใช้บริการธุรกิจนี้

เขายังบอกว่า ปัจจุบันอุตสาหกรรม Self-Storage เมืองไทยขยายตัวสูงอยู่ที่ 10% ขึ้นไป หรือคิดเป็นพื้นที่ประมาณ 2 แสนตารางเมตร แต่คาดว่าในอีก 5-10 ปีข้างหน้า พื้นที่เช่าอาจจะเพิ่มเป็น 4 แสนตารางเมตร (เทียบกับประชากร 10 ล้านคนในกรุงเทพมหานคร)

ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร สตอเรจ เอเชีย ย้อนให้ฟังว่า จุดเริ่มต้นในการทำธุรกิจ Self-Storage เกิดจากคำแนะนำของเพื่อนที่เป็นสถาปนิกที่อยู่แวดวงอสังหาฯมองเห็นโอกาสธุรกิจนี้ ที่สำคัญในขณะนั้นเมืองไทยยังแทบไม่มีผู้ประกอบทำธุรกิจนี้

“ผมลองเข้าไปศึกษาดูว่าธุรกิจนี้มีรูปแบบเป็นยังไง ลองเข้าไปเป็นลูกค้าใช้บริการ Self-Storage ในสิงคโปร์ ว่าขั้นตอนการทำธุรกิจเป็นแบบไหน ให้บริการลูกค้าแบบใดบ้าง คิดค่าบริการยังไง วิธีการเลือกโลเคชั่นแบบไหนถึงตรงกลุ่มเป้าหมาย และสิ่งที่อยากรู้คือทำไมคนถึงเลือกมาใช้บริการ Self-Storage”

เขา บอกว่า หลังจากเข้าไปศึกษา เห็นว่าในเมืองไทยธุรกิจ Self-Storage เป็นธุรกิจเพิ่มเริ่มต้น จึงตัดสินใจนำรูปแบบธุรกิจกลับมาปรับใช้ในไทย ผ่าน “ปัจจัยบวก” ในเรื่องของจำนวนคอนโดในกรุงเทพฯที่ผุดขึ้นเป็นดอกเห็ด ประกอบกับคนรุ่นใหม่ๆ นิยมการเข้ามาอยู่ในเมืองมากขึ้น

“ราคาคอนโดที่แพงขึ้นมาก ยิ่งเฉพาะในเขตเมือง หรือ ในทำลทองจำนวนพื้นที่ใช้สอยในห้องก็ต้องลดลงเหลือแค่ 20-30 ตารางเมตร (ห้อง Studio) มองว่าพื้นที่แค่นี้ไม่น่าจะพอกับกับสิ่งของจำนวนมาก ยิ่งเฉพาะหากมีครอบครัวมีลูกด้วย ธุรกิจ Self-Storage จะเป็นตัวที่ไปแก้ pain point การใช้ชีวิตให้กับคนยุคใหม่ที่นิยมอาศัยอยู่ตามคอนโดที่มีพื้นที่จำกัด”

ขณะที่อีกหนึ่งกลุ่มลูกค้าเป้าหมาย คือ “ลูกค้าต่างชาติ” ที่มาทำงานในไทย ที่อาจจำเป็นต้องย้ายสถานที่ทำงานบ่อยๆ เช่น ย้ายจากกรุงเทพฯ ไปพัทยา หรือ ย้ายจากกรุงเทพฯไปภูเก็ต ซึ่งลูกค้าดังกล่าวย่อมต้องการเก็บสิ่งของที่ไม่ได้ใช้ประจำ ประกอบกับกลุ่มต่างชาติเขาเคยใช้บริการในธุรกิจ Self-Storage ในประเทศเขามาแล้ว จึงเคยชินและรู้จักธุรกิจเป็นอย่างดี โดยบริษัทกำลังโฟกัสไปยังลูกค้าต่างชาติเพิ่มขึ้น จากสัดส่วนปัจจุบันเกิน 50% แต่ว่าคนไทยอนาคตเชื่อว่ามีโอกาสที่จะมาเป็นลูกค้ากลุ่มหลักของบริษัทได้เช่นกัน

ปัจจุบันลูกค้านิยมเก็บของ อาทิ ของใช้ส่วนตัว เฟอร์นิเจอร์ ของเล่นเด็ก ของสะสม และสินค้าออนไลน์ เป็นต้น

แม้ว่าธุรกิจ Self Storage จะเป็นสิ่งใหม่ที่กำลังเกิดขึ้นในไทย แต่คนยุคใหม่ส่วนใหญ่ที่นิยมอาศัยอยู่ในคอนโด , อพาร์ทเม้นต์ เพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ ฉะนั้น จึงจำเป็นต้องเช่าห้องเก็บของส่วนตัวไว้เพื่อลดปัญหาข้อจำกัดของพื้นที่เก็บของ ทำให้มองว่าธุรกิจนี้ยังเติบโตได้อีกมาก เขาเชื่อมั่น

สำหรับ “สตอเรจ เอเชีย” ลักษณะธุรกิจแบ่งเป็น 4 แบบ ประกอบด้วย

1.บริการห้องเก็บของส่วนบุคคล (Personal Storage) หากคุณต้องการเพิ่มพื้นที่อยู่อาศัยด้วยการจัดเก็บสิ่งของที่ไม่ได้ใช้บ่อยครั้ง หรือกำลังจะเปลี่ยนแปลงที่อยู่อาศัย ให้ i-Store Self Storage เป็นตัวช่วยในการจัดการจัดเก็บสิ่งของเหล่านั้น ลูกค้าสามารถเก็บสิ่งของได้ทั้งระยะสั้นและระยะยาว โดยมีขนาดห้องตั้งแต่ 0.5 ตร.ม. จนถึง 18 ตร.ม. ทำให้ลูกค้าเลือกขนาดห้องได้ตามความต้องการของลูกค้า

2.บริการห้องเก็บของสำหรับลูกค้ากลุ่มธุรกิจ (Business Storage) การจัดการพื้นที่จัดเก็บของ หรือสต็อกสินค้า สำหรับอาคารสำนักงานเป็นเรื่องสำคัญที่ต้องคำนึงถึงความปลอดภัยและการเข้าถึงโดยบุคคลใดบุคคลหนึ่งเท่านั้น อีกทั้งเรื่องทำเล ก็เป็นปัจจัยสำคัญในการเข้าถึงสินค้า ต้องเดินทางสะดวก ทำเลที่ตั้งของ i-Store Self Storage ตั้งอยู่ในศูนย์กลางธุรกิจ (CBD) ใกล้ BTS, MRT และ สามรารถเข้าออกได้ตลอด 24 ชม.

3.บริการห้องเก็บไวน์ (Wine Storage) ไวน์เป็นทรัพย์สินที่มีค่าและเป็นการลงทุนที่ต้องการการจัดเก็บที่เหมาะสมเพื่อให้ได้คุณค่าและคงรสชาติของไวน์ ที่ i-Store บริการเช่าพื้นที่เก็บของ เราเข้าใจถึงความสำคัญของการเก็บไวน์ที่ถูกต้อง ซึ่งห้องเก็บไวน์ของเราได้ออกแบบเพื่อให้คุณมั่นใจได้ว่าไวน์ของคุณจะถูกเก็บไว้ในอุณหภูมิที่เหมาะสม

4.BOX STORAGE (Box Storage) i-Store Go Box Storage คือบริการรับฝากกล่องเก็บของส่วนตัว โดยลูกค้าสามารถสั่งกล่องเพื่อบรรจุสิ่งของได้ผ่านทาง www.i-storego.com โดยจะมีเจ้าหน้าที่ i-Store Man นำกล่องสีน้ำเงินส่งให้ลูกค้าถึงบ้าน และเมื่อลูกค้าบรรจุสิ่งของลงในกล่องเรียบร้อยแล้ว เจ้าหน้าที่ i-Store Man จะนำกล่องมาเก็บไว้ใน Store อย่างปลอดภัย โดยมีระบบรักษาความปลอดภัย 24 ชั่วโมง

บริษัทมีสาขาและพื้นที่ให้บริการ มี 2 สาขา คือ สีลม และสุขุมวิท 24 ปัจจุบันอัตราการใช้พื้นที่เช่าของบริษัท แบ่งเป็นสีลมอยู่ที่ 60% และสุขุมวิท 24 เปิดมา 5 เดือน อัตราการเช่าพื้นที่อยู่ที่ 40% โดยลูกค้าทำสัญญาเช่าส่วนใหญ่มากกว่า 6 เดือนขึ้นไป

โดย มีอัตราค่าเช่าพื้นที่ แบ่งเป็น 1.บริการห้องเก็บของส่วนบุคคล เริ่มต้นที่ 900 บาทต่อเดือน สำหรับห้องขนาด 0.5 ตารางเมตร 2.บริการห้องเก็บของสำหรับลูกค้ากลุ่มธุรกิจ เริ่มต้นที่ 1,500 บาทต่อเดือน สำหรับห้องขนาด 1 ตารางเมตร 3.บริการห้องเก็บไวน์ เริ่มต้นที่ 3,000 บาทต่อเดือน สำหรับห้องขนาด 1.5 ลูกบาศก์เมตร 4.BOX STORAGE 250 บาทต่อกล่องต่อเดือน

เขาบอกว่า ในแผนธุรกิจบริษัทตั้งเป้าขยายสาขาปีละ 3-4 แห่ง และขยายผ่านแฟรนไซส์ โดยเป้าหมายปี 2565 บริษัทจะมีสาขาประมาณ 20 แห่ง แบ่งเป็นสาขาที่ขยายด้วยตัวเอง 10 สาขา และแฟรนไซส์ 10 สาขา โดยสาขาที่ลงทุนเองใช้เวลา “ถึงจุดคุ้มทุน” ประมาณ 6-7 ปี ขณะที่สาขาแฟรนไซส์ใช้เวลาคืนทุนประมาณ 3-4 ปี

สำหรับภาพรวมตลาด Self-Storage ปี 2562 บริษัทประเมินว่ามีแนวโน้มการเติบโตที่ดีจากการขยายตัวของภาคอสังหาฯ ขณะที่ปัจจุบันตลาดพื้นที่เช่าเก็บของในไทยมีพื้นที่รวมอยู่ที่ประมาณ 15,000 ตร.ม. และคาดว่ามูลค่าตลาดพื้นที่เช่าเก็บของในไทยอีก 5 ปีข้างหน้าจะอยู่ที่ประมาณ 400,000 ตร.ม. ในปัจจุบันบริษัทมีพื้นที่ให้บริการอยู่ที่ประมาณ 2,500 ตร.ม. โดยตั้งเป้าจะมี “ส่วนแบ่งการตลาด” (มาร์เก็ตแชร์) อยู่ที่ระดับ 30%

“เราตั้งเป้าหมาย 5 ปีข้างหน้า รายได้แตะ 80 ล้านบาท (ยังไม่รวมแฟรนไซส์) แต่หากรวมรายได้มีโอกาสเกิน 100 ล้านบาท”

อย่างไรก็ตาม ในช่วงที่ผ่านมาบริษัทใช้กลยุทธ์ในการทำตลาดด้วยการเน้นการสื่อสารให้ “แบรนด์ i-Store” เป็นที่เชื่อมั่นในกลุ่มผู้บริโภค พร้อมทั้งสร้างการรับรู้เกี่ยวกับความคุ้มค่าของการเลือกใช้บริการเช่าพื้นที่เก็บของที่มีคุณภาพ และความปลอดภัยสูง ตามสโลแกน “ของที่คุณรักต้องฝากกับเพื่อนที่รู้ใจ” โดยบริการของบริษัทมีทั้งหมด 4 บริการ

โดย i-Store ทำตลาดโดยเน้นฐานลูกค้ากลุ่มที่อาศัยในคอนโดในเมือง กลุ่มผู้ประกอบการพ่อค้าแม่ค้าออนไลน์ ออฟฟิศสำนักงานต่างๆ ซึ่งการเข้ามาทำตลาดในครั้งนี้เป้าหมายไม่ใช่การแข่งขันเพื่อแย่งชิงยอดขายในตลาด แต่ต้องการเป็นตัวช่วยให้คนเมืองได้มีพื้นที่ใช้สอยภายในที่พักอาศัยมากขึ้น ด้วยการเดินทางที่สะดวกใกล้รถไฟฟ้า BTS มีสิ่งอำนวยความสะดวกที่มีคุณภาพ มีสภาพแวดล้อมของสถานที่มีระบบความปลอดภัยตลอด 24 ชั่วโมง

นอกจากนี้ มีระบบป้องกันเพลิงไหม้ มีคีย์การ์ด เข้า-ออกอาคาร และใช้สแกนขึ้นลิฟต์ไปในชั้นของตัวเองได้เท่านั้น พร้อมควบคุมระบบแสงไฟ พัดลมระบายอากาศและเซ็นเซอร์ระบบไฟส่องสว่าง ผู้ใช้บริการสามารถเข้ามาเอาของได้ตลอด 24 ชั่วโมง ได้ทุกวัน เพียงแค่มีคีย์การ์ดเพียงใบเดียว

สำหรับเป้าหมายการดำเนินธุรกิจบริษัทต้องการตอบสนองความต้องการของลูกค้าด้วยการขยายสาขาในทำเลอื่นๆ ให้รองรับกับความต้องการของผู้พักอาศัยและธุรกิจทั้งในกรุงเทพฯ และจังหวัดท่องเที่ยวสำคัญๆ เช่น ชลบุรี พัทยา ภูเก็ต เป็นต้น

รวมทั้งทำให้ลูกค้ารู้สึกถึงความคุ้มค่าเมื่อมาใช้บริการ พัฒนาผลิตภัณฑ์ให้มีประสิทธิภาพ สร้างคุณภาพในการให้บริการ และคำนึงถึงความสะดวกสบายของลูกค้า มุ่งเน้นความปลอดภัยในทรัพย์สินของลูกค้า ทำให้ลูกค้ารู้สึกว่าสามารถไว้ใจที่จะฝากของไว้กับบริษัท สร้างความสัมพันธ์ที่ยั่งยืนกับพันธมิตรทางธุรกิจ เช่น ผู้ประกอบการอสังหาริมทรัพย์ บริษัท รับขนส่ง ย้ายบ้าน เป็นต้น

นอกจากนี้ จะนำเสนอผลิตภัณฑ์ ที่มีคุณภาพ และแตกต่างกว่าคู่แข่ง เช่น ทำเลที่ตั้ง ระบบรักษาความปลอดภัย สิ่งอำนวยความสะดวกต่างๆ ภายในอาคาร นำเสนอการบริการที่แตกต่างจากคู่แข่ง ในด้านการให้บริการ Storage อย่างครบวงจร และมีบริการเสริมต่างๆ ให้เหมาะสมกับความต้องการของลูกค้าแต่ละราย

——————-

ผนึกดีเวลลอปเปอร์ รุกตลาดอสังหาฯ

“ภักดี อนิวรรตน์” ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและผู้ก่อตั้ง บริษัท สตอเรจ เอเชีย จำกัด เล่าว่า ปัจจุบันยังขยายฐานผู้ใช้บริการโดยร่วมมือกับพันธมิตรที่เป็นผู้พัฒนาอสังหาริมทรัพย์ โดย i-Store ได้ร่วมมือกับ บมจ.แสนสิริ หรือ SIRI ในการยกระดับประสบการณ์การใช้ชีวิตเพื่อลูกบ้านแสนสิริให้สะดวกสบายขึ้นอีก

โดยสามารถเลือกใช้บริการของ i-Store ผ่าน Application HOME SERVICE 2.0 บน ฟีเจอร์ SANSIRI MOVE-IN EXPERIENCE ในกลุ่ม MOVING บริการให้เช่าห้องเก็บของ (Self-Storage) และ กลุ่ม EASY LIVING บริการให้เช่าห้องเก็บไวน์ (Wine Storage) พร้อมมอบข้อเสนอพิเศษที่เหนือกว่าให้กับลูกบ้านแสนสิริโดยเฉพาะ คาดว่าแคมเปญนี้จะได้รับกระแสตอบรับที่ดีจากลูกบ้านของแสนสิริ ที่ i-Store จะเป็นตัวช่วยให้ลูกบ้านมีพื้นที่ใช้สอยภายในบ้าน หรือคอนโดมิเนียมเพิ่มมากขึ้น

นอกจากนี้ ยังมีแผนขยายธุรกิจผ่านระบบแฟรนไชส์เพิ่มเติม ขณะนี้อยู่ระหว่างกำหนดรูปแบบและรายละเอียดในการลงทุน คาดว่าจะเริ่มเปิดขายแฟรนไชส์ได้ภายในช่วงไตรมาส 4 ของปีนี้ ซึ่งปัจจุบันบริษัทได้เริ่มให้ข้อมูลกับผู้สนใจแล้วหลายราย โดยกลุ่มผู้สนใจมีทั้งที่มีความคุ้นเคยในธุรกิจพื้นที่เช่าอาคารสำนักงาน รวมถึงมีแหล่งเงินทุนพร้อมอยู่แล้ว และกลุ่มผู้ประกอบการที่ไม่มีประสบการณ์ แต่มี Asset และต้องการร่วมธุรกิจผ่านระบบแฟรนไชส์

อีกทั้งบริษัทวางแผนเตรียมจะระดมทุนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยผ่าน LiVE platform ในการระดมทุนในรูปแบบ Crowdfunding และการซื้อขายหลักทรัพย์ในรูปแบบเจรจาต่อรอง (Over The Counter: OTC) ซึ่งเป็นการซื้อขายที่เรียกว่าระบบนอกตลาด โดยเป็นการตกลงกันเองระหว่างผู้ลงทุนโดยชำระราคา และส่งมอบกันนอกระบบตลาด ทั้งนี้คาดว่าน่าจะได้ข้อสรุปในภายในปีนี้

ขอบคุณข้อมูลข่าวจาก : กรุงเทพธุรกิจ

http://www.bangkokbiznews.com/news/detail/821385