image 37 (2)

28 Apr 2025
Storage Asia ร่วมกับ KPN Tower พัฒนาโครงการ Self Storage เสริมสิ่งอำนวยความสะดวก สู่การเป็นอาคารรูปแบบใหม่

บริษัท สตอเรจ เอเชีย จำกัด (มหาชน)  นำโดยคุณภักดี อนิวรรตน์ ประกาศความร่วมมือกับ อาคารสำนักงาน KPN Tower คุณรุ่งยศ จันทภาษา บริษัท บลูเวล แอสเซท จำกัด พัฒนาโครงการ i-Store  Self Storage ภายในอาคาร KPN Tower ตอบรับกับแนวโน้มการเติบโตอย่างต่อเนื่องของธุรกิจ self storage ในประเทศไทย และเพิ่มความสะดวกสบายให้แก่ผู้เช่าในอาคาร

ความร่วมมือครั้งนี้มีเป้าหมายในการยกระดับอาคาร KPN Tower ให้เป็นอาคารสำนักงานยุคใหม่เพื่อเพิ่มฟังก์ชันการใช้งานให้หลากหลายและทันสมัยมากยิ่งขึ้น โดยบริการของ i-Store Self Storage จะเข้ามาเสริมศักยภาพด้านพื้นที่เก็บของส่วนตัวและเชิงพาณิชย์ ช่วยให้ผู้เช่าสามารถใช้พื้นที่ในสำนักงานได้อย่างมีประสิทธิภาพสูงสุด ทาง Storage Asia พร้อมนำประสบการณ์และมาตรฐานการให้บริการระดับสากลเข้ามาช่วยเสริมภาพลักษณ์ใหม่ของอาคาร KPN Tower ให้กลายเป็นพื้นที่ทำงานและไลฟ์สไตล์แบบครบวงจร โครงการมีกำหนดเริ่มต้นพัฒนาในเร็วๆ นี้ และคาดว่าจะเปิดให้บริการได้ภายในปี 2568

28 Apr 2025
Storage Asia ร่วมกับ KPN Tower พัฒนาโครงการ Self Storage เสริมสิ่งอำนวยความสะดวก สู่การเป็นอาคารรูปแบบใหม่

บริษัท สตอเรจ เอเชีย จำกัด (มหาชน)  นำโดยคุณภักดี อนิวรรตน์ ประกาศความร่วมมือกับ อาคารสำนักงาน KPN Tower คุณรุ่งยศ จันทภาษา บริษัท บลูเวล แอสเซท จำกัด พัฒนาโครงการ i-Store  Self Storage ภายในอาคาร KPN Tower ตอบรับกับแนวโน้มการเติบโตอย่างต่อเนื่องของธุรกิจ self storage ในประเทศไทย และเพิ่มความสะดวกสบายให้แก่ผู้เช่าในอาคาร

ความร่วมมือครั้งนี้มีเป้าหมายในการยกระดับอาคาร KPN Tower ให้เป็นอาคารสำนักงานยุคใหม่เพื่อเพิ่มฟังก์ชันการใช้งานให้หลากหลายและทันสมัยมากยิ่งขึ้น โดยบริการของ i-Store Self Storage จะเข้ามาเสริมศักยภาพด้านพื้นที่เก็บของส่วนตัวและเชิงพาณิชย์ ช่วยให้ผู้เช่าสามารถใช้พื้นที่ในสำนักงานได้อย่างมีประสิทธิภาพสูงสุด ทาง Storage Asia พร้อมนำประสบการณ์และมาตรฐานการให้บริการระดับสากลเข้ามาช่วยเสริมภาพลักษณ์ใหม่ของอาคาร KPN Tower ให้กลายเป็นพื้นที่ทำงานและไลฟ์สไตล์แบบครบวงจร โครงการมีกำหนดเริ่มต้นพัฒนาในเร็วๆ นี้ และคาดว่าจะเปิดให้บริการได้ภายในปี 2568

15 Apr 2025
ชู 3 เมกะเทรนด์หนุน “Self-Storage” ดันรายได้ “i-Store” ปี 68 โต 200%

นายภักดี อนิวรรตน์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท สตอเรจ เอเชีย จำกัด (มหาชน) ผู้ดำเนินธุรกิจบริการให้เช่าห้องเก็บของหรือทรัพย์สินส่วนตัว (Self-Storage)ภายใต้เครื่องหมายการค้า “i-Store”เปิดเผยว่า การขยายตัวของคอนโดมิเนียมเพื่อรองรับความต้องการที่อยู่อาศัยในเมืองใหญ่ มีความหนาแน่นขึ้นทุกวัน แต่คอนโดใหม่ ๆ กลับมีพื้นที่ใช้สอยลดลง ขณะที่ความต้องการพื้นที่ในการอยู่อาศัยและจัดเก็บสิ่งของส่วนตัวกลับสวนทางกับพื้นที่คอนโดที่เล็กลงทุกวัน ทิศทางดังกล่าวทำให้ “i-Store” เล็งเห็นโอกาสในธุรกิจ บริการพื้นที่เก็บสิ่งของส่วนตัวหรือบริการรับฝากสิ่งของ

“เพราะในขณะที่ผู้บริโภคทุ่มเงินจำนวนมากเพื่อซื้อคอนโดราคาแพงๆ ในเมืองซึ่งมีราคาต่อตารางเมตรด้วยราคาหลักแสน แต่กลับได้ใช้สอยอย่างเต็มประโยชน์ เพราะต้องนำมาใช้ในเก็บสิ่งของเครื่องใช้ในชีวิตประจำวัน เท่ากับเป็นการใช้งานที่ไม่คุ้มค่าเงิน และใช้ประโยชน์พื้นที่ไม่คุ้มค่า” นายภักดี กล่าว

จากความต้องการพื้นที่เก็บของส่วนตัวและทรัพย์สินที่เพิ่มขึ้น ทำให้“i-Store”มองเห็นโอกาสในการนำเสนอsales storage service ซึ่งเป็นเมกะเทร์นดได้รับความนิยมอย่างมากในมหานครและเมืองใหญ่ ๆ ทั่วโลก ร่วมถึงกรุงเทพฯ เองซึ่งมีแนวโน้มเดียวกับมหานครขนาดใหญ่ โดยi-storeได้เริ่มต้นธุรกิจ บริการห้องเก็บของส่วนตัวและทรัพย์สินในปี 2560 และได้มีการขยายสาขาให้บริการอย่างต่อเนื่อง เพื่อรองรับดีมานด์พื้นที่จัดเก็บสิ่งของและทรัพย์สินส่วนบุคคลและองค์กรต่าง ๆ ซึ่งนับวันจะขยายตัวมากขึ้น

โดย i-Store Self Storageได้นำบริการห้องเก็บของส่วนตัวและเก็บทรัพย์สิน เข้ามาช่วยอำนวยความสะดวกให้กับลูกค้าทั้งลูกค้าบุคคล และองค์กร ซึ่งมีพื้นที่ให้เช่าเก็ยของ เริ่มต้นตั้งแต่ขนาด 0.5 ตารางเมตร ไปจนถึง25 ตารางเมตร และ “i-Store”ยังได้นำเสนอห้องเก็บของอุณหภูมิปกติ และห้องเก็บของควบคุมอุณหภูมิ ซึ่งเหมาะสำหรับจัดเก็บสิ่งของ และทรัพย์สินที่ต้องการควบคุมอุณหภูมิ เช่น ไวน์ เข้ามาให้บริการด้วย โดยสัญญาบริการเริ่มต้นที่1 เดือนขึ้นไป ลูกค้าสามารถนำสิ่งของหรือทรัพย์สินเข้าจัดเก็บด้วยตนเองและสามารถเข้าออกพื้นที่เก็บของได้ตลอด
24 ชั่วโมง


สำหรับลูกค้าหลักของi-storeแบ่งออกเป็น 2 กลุ่ม คือ กลุ่มลูกค้าคนไทย 50% และ ลูกค้าชาวต่างชาติ 50% โดยในส่วนของกลุ่มลูกค้าคนไทยนั้น มีทั้งกลุ่มลูกค้าที่เป็นองค์กร ซึ่งมีสัดส่วน 70-80% และ ลูกค้าบุคคล ซึ่งมีสัดส่วนอยู่ที่ 20 - 30% ส่วนกลุ่มลูกค้าต่างชาติเป็น กลุ่มคนทำงานที่ย้ายไปทำงานในพื้นที่ต่าง ๆ ตามเมืองใหญ่และแหล่งธุรกิจทั่วโลก โดยกลุ่มลูกค้า กลุ่มนี้จะคุ้นเคยกับการฝากสิ่งของกับผู้ให้บริการsales storage serviceเพราะมีความสะดวกในการเคลื่อนย้ายและใช้งานมากกว่าการจัดเก็บไว้ในพื้นที่ที่เป็นที่พักของตัวเองเนื่องจากพื้นที่ที่พักมีขนาดพื้นที่จำกัด

Sukhumvit 71

โดยตลอด 8 เวลาปีที่ผ่านมาi-storeมีการลงทุน เปิดสาขาให้บริการรวม10 สาขาซึ่งทั้งหมดตั้งอยู่ในย่านใจกลางเมือง หรือ CBD ประกอบด้วย 1.สาขาสีลม, 2.สาขาสุขุมวิท24, 3.สาขาสุขุมวิท71, 4.สาขาสุขุมวิท9 ซอยทองหล่อ, 5.สาขาหัวลำโพง, 6.สาขาอ่อนนุช, 7.สาขาเพลินจิต, 8.สาขานานา, 9.สาขาหมอชิต, 10.สาขาสาทร โดยทั้ง
10 สาขา มีพื้นที่ให้บริการรวม 9,500 ตารางเมตร (ตร.ม.) โดย 5 ใน 10 สาขาที่มีการเปิดให้บริการในปัจจุบัน เป็นการเปิดสาขาใหม่ในปี 2567 ถึง 5 สาขา 


“สำหรับสาขาที่เปิดใหม่ในปี 2567 ซึ่งมีด้วยกัน 5 สาขานั้นเป็นการลงทุนเองส่วนหนึ่ง และอีกส่วนหนึ่งเป็นการร่วมทุน
โดยการลงทุนนั้นมีทั้งรูปแบบการเช่าอาคารนำมาปรับปรุงแล้วติดตั้งระบบการจัดเก็บของ i-Store เข้าไป อีกส่วนหนึ่งเป็นการลงทุนก่อสร้างอาคารขึ้นมาใหม่พร้อมติดตั้งระบบ ให้บริการลูกค้า”

นายภักดี กล่าวว่า ในส่วนของ สาขาที่มีการร่วมทุนi-storeจะเข้าไปลงทุนในสัดส่วนตั้งแต่25 -40% เช่น สาขาสุขุมวิท
ซึ่งเป็นการร่วมทุน บริษัท เอสซีเอส จำกัด บริษัทในเครือ บมจ. เอสซี แอสเสท คอร์ปอเรชั่น โดยi-store จะรับจ้างบริหารจัดการระบบฝากของทั้งหมดซึ่งจะได้ค่าตอบแทนเป็นค่าจ้างบริหารจัดการ 12 -16% 
นอกจากรูปแบบการลงทุนแบบร่วมทุนแล้วi-storeเป็นคอนเซ้าท์ให้กับ เจ้าของอาคารหรือเจ้าของที่ดินที่ต้องการนำที่ดินหรืออาคารที่ไม่ได้ใช้ ประโยชน์มาเปิดให้บริการ ห้องฝากของและทรัพย์สิน โดยi-storeจะเป็นที่ปรึกษาในการออกแบบและวางระบบจัดเก็บรวมถึง ออกแบบห้องเก็บของให้กับผู้ลงทุน และในท้ายที่สุดขั้นตอนของการให้บริการi-storeจะรับหน้าที่ในการบริหารงาน รับฝากสิ่งของทั้งหมดโดยรับ ค่าบริหารจัดการอยู่ที่ 12-16%

“ในการขยายสาขาให้บริการและความต้องการพื้นที่ในการฝากของที่เพิ่มมากขึ้นทำให้ ในปี2567 ที่ผ่านมาi-storeมีรายได้เติบโตอย่างต่อเนื่องโดยมีรายได้รวมอยู่ที่ 150 ล้านบาทและมีกำไรสุทธิ21 ล้านบาท โดยในปี 2568 นี้บริษัทคาดว่าจะมีรายได้เติบโตประมาณ 200% ซึ่งจะมาจากความต้องการใช้พื้นที่ในการฝากของเพิ่มขึ้น ประกอบกับการลงทุนขยายสาขาให้บริการใหม่ที่เพิ่มขึ้น ซึ่งจะเป็นตัวผลักดันให้รายได้ของบริษัทขยายตัวตามไปด้วย”

IStorageSathon-100

นายภักดีกล่าวว่า สำหรับแผนการลงทุน ขยายสาขาใหม่ในปี2568 นี้i-storeมีแผนจะขยายสาขาใหม่เพิ่ม 3สาขาซึ่งใช้งบลงทุนประมาณ140 ล้านบาท โดยสาขาแรกที่มีการลงทุน คือ สาขาเอกมัย ซึ่งเป็นการร่วมทุนกับผู้ถือหุ้นรายเดิมในการลงทุนก่อสร้างอาคารเก็บของ มีพื้นที่กว่า4,500 ตร.ม. นับเป็นสาขาที่ใหญ่ที่สุดที่เปิดให้บริการมา ส่วนอีก 2สาขาที่จะเปิดตัวในปี2568 นี้คือสาขาสุรวงศ์และสาขา พระราม9 ซึ่งทั้ง2สาขานี้จะเป็นสาขาที่เจ้าของอาคารและเจ้าของที่ดินลงทุนเองทั้งหมดโดยi-storeจะรับหน้าที่บริหารจัดการระบบทั้งหมด ทั้งนี้ เมื่อรวม 3สาขาใหม่ที่จะเปิดให้บริการในปีนี้ จะทำให้i-storeมีสาขาที่เปิดให้บริการ13 สาขา และ มีพื้นที่ให้บริการกว่า 14,000 ตร.ม.

สำหรับ ตัวเร่งสำคัญที่ทำให้ ผู้พักอาศัยในคอนโดหันมาให้ความสนใจในการใช้บริการพื้นที่ฝากสิ่งของและทรัพย์สินของi-storeเพิ่มมากขึ้นในปัจจุบันคือ ความต้องการ ซ่อมแซมและปรับปรุงห้องชุดในคอนโด ภายหลังจากได้รับความเสียหายจากเหตุการณ์แผ่นดินไหว เนื่องจากในการซ่อมแซมและปรับปรุงห้องชุดเจ้าของห้องชุดจำเป็นต้องเคลื่อนย้ายสิ่งของเครื่องใช้ภายในห้องออกไปจัดเก็บไว้ที่อื่น เพื่อให้ช่างสามารถเข้าทำการซ่อมแซมและปรับปรุงห้องได้สะดวก และยังไม่ต้องระมัดระวังในเรื่องของการสูญหายของสิ่งของหรือทรัพย์สินภายในหลัง

ทั้งนี้ หลังจากเกิดเหตุการณ์แผ่นดินไหวในช่วง 2 สัปดาห์ที่ผ่านมา อัตราการใช้พื้นที่ห้องรับฝากของ i- storeมีอัตราการขยายตัวเพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ โดยอัตราการใช้พื้นที่ในช่วง 2สัปดาห์หลังจากแผ่นดินไหวเพิ่มขึ้นกว่า
10% 
และคาดว่าจะเพิ่มขึ้นอีกในช่วงต่อจากนี้จากความต้องการพื้นที่ ในการเคลื่อนย้ายและจัดเก็บของและทรัพย์สินเพื่อเปิดพื้นที่ในคอนโดให้ช่างได้เข้าซ่อมแซมและปรับปรุงห้องชุดที่ได้รับความเสียหายจากเหตุการณ์แผ่นดินไหวนอกจากนี้อีกหนึ่งตัวเร่งในการใช้บริการห้องฝากของคือธุรกิจอีคอมเมิร์ซซึ่งมีการขยายตัวอย่างมากในช่วงที่ผ่านมาทำให้เกิดความต้องการพื้นที่เก็บสินค้าของผู้อยู่อาศัยในคอนโดย่านใจจกลางเมืองที่ประกอบธุรกิจอีคอมเมิร์ซ

นายภักดี กล่าวต่อว่า แนวโน้มความต้องการใช้บริการห้องเก็บของส่วนตัวและเก็บทรัพย์สินมีแนวโน้มปรับตัวเพิ่มขึ้นตาม เมกะเทร์นด ซึ่งประกอบด้วย 1.เทรนของความต้องการใช้พื้นที่ในการจัดเก็บของทดแทนการใช้พื้นที่ในคอนโด
ในเมืองย่านซีบีดี ซึ่งมีอยู่อย่างจำกัด และมีราคาขายที่แพงขึ้น  2.เทรนของธุรกิจอีคอมเมิร์ซ ซึ่งมีการขยายตัวอย่างมากในช่วงที่ผ่านมาทำให้ความต้องการพื้นที่จัดเก็บสินค้าก่อนจัดส่งของผู้ค้าอีคอมเมิร์ซมีการขยายตัวเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง

3.เทร์นดWork Anywhereโดยเฉพาะกลุ่มชาวต่างชาติที่นิยมทำงานในพื้นที่ต่างๆโดยไม่จำเป็นต้องเข้าออฟฟิศหรือมีออฟฟิศเป็นประจำโดยกลุ่มชาวต่างชาติที่ทำงานในลักษณะนี้จะกระจายตัวกันไปทำงานในพื้นที่ต่างๆในเมืองใหญ่ทั่วโลกซึ่งหนึ่งในเมืองสำคัญที่ได้รับความนิยมคือกรุงเทพมหานครซึ่งเป็นเมืองแห่งการท่องเที่ยวที่ติดอันดับต้นต้นของโลกและมีนักท่องเที่ยวที่เดินทางเข้ามาทำงานและท่องเที่ยวไปพร้อมพร้อมกันมากที่สุดอีกแห่งหนึ่งของโลก

ขอบคุณบทความจาก : www.mgronline.com

11 Apr 2025
การใช้บริการห้องเก็บของเป็นการลงทุนเพื่อคุณภาพชีวิตที่ดีกว่าอย่างไร?

จากงานวิจัยจาก UCLA (University of California, Los Angeles) พบว่า ผู้ที่อาศัยอยู่ในบ้านที่รก มีระดับฮอร์โมนความเครียด (คอร์ติซอล) สูงขึ้น โดยเฉพาะในกลุ่มแม่บ้านที่ต้องดูแลข้าวของจำนวนมาก ซึ่งอาจนำไปสู่ความเครียดเรื้อรังและความวิตกกังวล การใช้บริการห้องเก็บของจึงไม่ใช่แค่เรื่องของการจัดเก็บแต่ยังเป็นการลงทุนเพื่อคุณภาพชีวิตที่ดีกว่า ด้วยประโยชน์ทั้งหมด 7 ข้อดังนี้

  1. เพิ่มพื้นที่ใช้สอย ทำให้ชีวิตสะดวกขึ้น

จะดีกว่าไหมที่ปล่อยให้ของใช้ที่ไม่ได้ใช้บ่อยๆ มาเบียดเบียนพื้นที่ห้อง การนำของไปเก็บในห้องเก็บของสามารถช่วยให้คุณมีพื้นที่อยู่อาศัยกว้างขึ้น สามารถจัดแต่งห้องให้สวยงาม ลดความอึดอัดในคอนโดหรือบ้านขนาดเล็ก

  1. ลดความเครียดจากความรกรุงรัง

พื้นที่ที่เป็นระเบียบช่วยให้สมองปลอดโปร่ง ซึ่งงานวิจัยที่ชี้ว่าความรกในที่อยู่อาศัยส่งผลต่อระดับความเครียดและความสามารถในการโฟกัสต่างๆ ดังนั้น การจัดเก็บข้าวของให้อยู่เป็นที่เป็นทาง จะช่วยให้คุณรู้สึกสบายใจขึ้นและใช้ชีวิตอย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น

  1. ประหยัดเวลาในการหาของ

หลายครั้งที่คุณต้องเสียเวลาหาของที่ซุกอยู่ในตู้เสื้อผ้า ใต้เตียง หรือมุมใดมุมหนึ่งของห้อง หากมีพื้นที่เก็บของที่เป็นระบบระเบียบ คุณสามารถหยิบจับข้าวของที่ต้องการได้ง่ายขึ้น ไม่ต้องเสียเวลาค้นหาให้วุ่นวาย

  1. ปกป้องของมีค่าและของที่ใช้งานเฉพาะฤดูกาล

ยกตัวอย่างเสื้อกันหนาว อุปกรณ์เล่นสกี หรือชุดว่ายน้ำที่ใช้แค่บางช่วงของปี ของสะสมที่มีมูลค่า เช่น กระเป๋าแบรนด์เนม นาฬิกา หรือเครื่องประดับเอกสารสำคัญหรืออุปกรณ์สำนักงานที่ต้องจัดเก็บอย่างปลอดภัย การใช้บริการห้องเก็บของช่วยให้คุณมั่นใจได้ว่าสิ่งของเหล่านี้จะได้รับการดูแลอย่างดี ไม่เสียหายจากความชื้น ฝุ่น หรืออุณหภูมิที่ไม่เหมาะสม

  1. ยืดอายุการใช้งานของสิ่งของ เครื่องใช้

ของที่เก็บไม่ดีอาจเสื่อมสภาพเร็วกว่าที่ควร เช่น เฟอร์นิเจอร์ไม้ที่วางกองไว้ในห้อง อาจถูกแมลงกัดกิน หรือกระเป๋าหนังอาจเสื่อมสภาพจากความชื้น การจัดเก็บอย่างเหมาะสมในพื้นที่ที่ควบคุมอุณหภูมิและความชื้นจะช่วยให้ของเหล่านี้อยู่ในสภาพดีได้นานขึ้น

  1. ยืดหยุ่นและประหยัดกว่าการเช่าพื้นที่เพิ่ม

หากห้องของคุณเริ่มคับแคบ ตัวเลือกที่หลายคนคิดถึงคือ การขยับขยายไปอยู่คอนโดที่ใหญ่ขึ้น ซึ่งมีค่าใช้จ่ายสูงกว่าหลายเท่า แต่ในความเป็นจริง การเช่าห้องเก็บของรายเดือนเป็นทางเลือกที่คุ้มค่ากว่า เพราะสามารถเลือกขนาดที่เหมาะสมกับของที่ต้องการเก็บ และปรับเปลี่ยนได้ตามความต้องการ

  1. รองรับไลฟ์สไตล์ที่เปลี่ยนแปลงตลอดเวลา

สำหรับคนที่ย้ายที่อยู่บ่อย เช่น นักธุรกิจ นักเรียน หรือคนที่ต้องทำงานในต่างประเทศ หรือสำหรับครอบครัวที่กำลังขยายต้องการเพิ่มพื้นที่ต้อนรับสมาชิคใหม่หรือเก็บของใช้สำหรับลูก และ สำหรับคนที่ทำธุรกิจออนไลน์ ที่ต้องการพื้นที่สต็อกสินค้าโดยไม่ต้องเช่าคลังสินค้าขนาดใหญ่

บริการห้องเก็บของช่วยให้คุณจัดการพื้นที่และข้าวของได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น ซึ่งส่งผลต่อความเป็นระเบียบ ความสะดวกสบาย และความสุขในชีวิตประจำวัน

สรุป: การใช้ห้องเก็บของเป็นการลงทุนในคุณภาพชีวิต

✅ อยู่สบายขึ้น – ห้องโล่ง โปร่ง น่าอยู่

✅ ลดความเครียด – ไม่ต้องเจอห้องรกๆ ทุกวัน

✅ ประหยัดเวลา – หาของง่าย ไม่เสียเวลาค้น

✅ รักษาของให้อยู่ในสภาพดี – ป้องกันความเสียหาย

✅ คุ้มค่ากว่าการเช่าพื้นที่เพิ่ม – ค่าใช้จ่ายน้อยกว่า แต่ได้พื้นที่เพิ่ม

หากคุณกำลังมองหาพื้นที่เก็บของที่ปลอดภัย สะอาด และสะดวก "i-Store Self Storage" คือทางเลือกที่ช่วยให้คุณมีคุณภาพชีวิตที่ดียิ่งขึ้น!  

ดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ www.i-store.co.th

09 Apr 2025
ความเชื่อมั่นในการให้บริการหลังเกิดเหตุการณ์แผ่นดินไหว

ในฐานะผู้บริหารของ i-Store ผมขอเรียนให้ทุกท่านมั่นใจและเชื่อมั่นว่า ทิศทางและความมุ่งมั่นของบริษัทเราต่อธุรกิจ self storage ที่ได้กลายเป็นส่วนหนึ่งของชีวิตประจำวันของผู้คนจำนวนมาก หลังเผชิญกับเหตุการณ์แผ่นดินไหวที่ส่งผลกระทบต่อหลายพื้นที่ รวมถึงบางสาขาของ i-Store แม้จะไม่มีผู้ได้รับบาดเจ็บ แต่เหตุการณ์ครั้งนี้ได้สะท้อนให้เห็นถึงความสำคัญของความปลอดภัย และความรับผิดชอบต่อทรัพย์สินของลูกค้า เราจึงได้ดำเนินการตรวจสอบความมั่นคงของอาคารทุกสาขา และเพิ่มระบบเฝ้าระวังเพื่อให้ทุกพื้นที่สามารถรองรับเหตุฉุกเฉินได้อย่างมีประสิทธิภาพ ทันทีหลังเกิดเหตุการณ์ เราได้ส่งทีมวิศวกรโครงสร้างผู้เชี่ยวชาญเข้าตรวจสอบอาคารทุกสาขาอย่างละเอียด และได้รับการยืนยันว่าโครงสร้างของเรามีความแข็งแรงและปลอดภัย ซึ่งเป็นสิ่งที่เราให้ความสำคัญสูงสุด เพื่อให้ทรัพย์สินอันมีค่าของลูกค้าทุกท่านได้รับการดูแลด้วยมาตรฐานที่ดีที่สุด

เรายังตระหนักถึงความเดือดร้อนของผู้ที่ได้รับผลกระทบ โดยเฉพาะผู้ที่อยู่อาศัยในคอนโดมิเนียมที่ได้รับความเสียหายและจำเป็นต้องหาพื้นที่ในการจัดเก็บทรัพย์สินหรือสิ่งของชั่วคราว ลูกค้าหลายท่านจึงไว้วางใจเลือกใช้บริการของ i-Store Self Storage ด้วยจำนวนสาขาที่ครอบคลุมทั่วกรุงเทพมหานครถึง 10 สาขา รวมถึงความพร้อมในการอำนวยความสะดวกแก่ลูกค้าอย่างเต็มที่ บริษัทได้ลดค่าใช้บริการ 50% เพื่อช่วยบรรเทาความกังวลของลูกค้าในช่วงเวลานี้อีกด้วย

สำหรับปี 2568 นี้ เรามีเป้าหมายที่ชัดเจนในการยกระดับบริการของเราให้เหนือความคาดหวังของลูกค้า ยกระดับประสบการณ์ที่ดีให้กับลูกค้าในทุกมิติ ทั้งในด้านเทคโนโลยี ความสะดวกสบาย และความปลอดภัย พร้อมกันนี้ เรายังให้ความสำคัญกับการพัฒนาทีมงานและการบริหารจัดการทรัพยากรอย่างยั่งยืน เพื่อให้ i-Store เป็นผู้นำตลาด self storage ที่ได้รับความไว้วางใจสูงสุดจากลูกค้า

ในนามของทีมผู้บริหารและพนักงานทุกคน ผมขอยืนยันในความตั้งใจที่จะพัฒนาคุณภาพบริการอย่างต่อเนื่อง เพื่อให้ i-Store เป็นทางเลือกที่ลูกค้าไว้วางใจ ทั้งในยามปกติและยามวิกฤต

ขอขอบคุณทุกท่านที่ร่วมเดินทางกับเรา และหวังว่าจะได้รับการสนับสนุนเช่นนี้ต่อไป

02 Apr 2025
i-Store Self Storage ห้องเก็บของรายเดือน ตอบโจทย์ชีวิตแนวสูง ใจกลางเมือง

เมื่อวิถีชีวิตเปลี่ยนไป เน้นความสะดวกมากกว่าพื้นที่ คนเมืองให้ความสำคัญกับทำเลที่เดินทางสะดวกมากกว่าขนาดห้อง การเลือกอยู่คอนโดใกล้รถไฟฟ้า หรือที่ทำงาน แม้ห้องจะเล็กลงก็ตาม จึงเป็นไลฟ์สไตล์หลักของคนเมือง เมื่อพื้นที่ใช้สอยภายในห้องถูกจำกัด ทำให้การจัดเก็บข้าวของกลายเป็นปัญหาสำคัญ หลายคนต้องเผชิญกับห้องที่แออัด หรือจำเป็นต้องทิ้งของที่ยังมีคุณค่าแต่เพียงเพราะไม่มีที่เก็บ ด้วยเหตุนี้ i-Store Self Storage จึงเป็นทางเลือกที่ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ของคนเมืองที่ต้องการพื้นที่เก็บของเพิ่ม โดยไม่ต้องเสียสละพื้นที่ใช้สอยภายในห้อง

ทำไมการใช้ห้องเก็บของถึงจำเป็นสำหรับคนอยู่คอนโด? ปัจจัยแรกคือการเพิ่มพื้นที่ใช้สอยให้กับห้องด้วยการเก็บของที่ไม่ได้ใช้บ่อย เช่น กระเป๋าเดินทาง ของสะสม หรือเฟอร์นิเจอร์บางชิ้นเพื่อช่วยให้ห้องคอนโดดูเป็นระเบียบและน่าอยู่มากขึ้น เหมาะสำหรับนักช้อปและนักสะสม เช่น ผู้ที่สะสมเสื้อผ้า กระเป๋า รองเท้า อุปกรณ์กีฬา หรือ Art Toy บริการห้องเก็บของช่วยให้สามารถเก็บของเหล่านี้ได้โดยไม่ต้องอัดแน่นอยู่ในคอนโด และหากมีทำเลใจกลางเมืองยิ่งทำให้นักเดินทางที่เดินทางบ่อย ไม่จำเป็นต้องขนของไปมาทุกครั้ง สามารถฝากของที่ไม่ใช้ประจำไว้ที่ i-Store ได้อย่างปลอดภัย

reception-1536x864

เลือกเก็บของที่ i-Store Self Storage ทำเลใจกลางเมือง มากที่สุดในกรุงเทพฯ ทั้ง 10 สาขา คือ สาขาทองหล่อ 9, สาขาเพลินจิต-นานา, สาขาสุขุมวิท 24, สาขาสาทร วัน, สาขาสุขุมวิท 71, สาขาอ่อนนุช, สาขาอุดมสุข, สาขาหัวลำโพง, สาขาสีลม และ สาขาจตุจักร ให้บริการด้วยระบบรักษาความปลอดภัยตลอด 24 ชั่วโมง พร้อมกล้องวงจรปิดและระบบเข้า-ออกด้วย Passcode มีขนาดห้องเก็บของที่หลากหลายตอบโจทย์ทั้งของเล็กและของใหญ่ ให้เช่าแบบรายเดือน

การใช้บริการห้องเก็บของไม่ใช่แค่เรื่องของการจัดเก็บ แต่ยังเป็นการลงทุนเพื่อคุณภาพชีวิตที่ดีกว่า เพราะนอกจากการนำของไปเก็บในห้องเก็บของจะช่วยให้คุณมีพื้นที่อยู่อาศัยกว้างขึ้นและสามารถทำกิจกรรมจากพื้นที่ใช้สอยอย่างเต็มที่ งานวิจัยยังชี้ว่า หากห้องมีของมากเกินไปจนรู้สึกอึดอัดจะส่งผลต่อระดับความเครียดและความสามารถในการโฟกัส ดังนั้นการจัดเก็บข้าวของให้อยู่เป็นที่เป็นทางจะช่วยให้คุณรู้สึกสบายใจขึ้นและใช้ชีวิตอย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น จึงเป็นเหตุผลว่าทำไมบริการ Self Storage อย่าง i-Store ถึงกลายเป็นทางเลือกสำคัญของคนเมืองโดยไม่ต้องเสียเงินซื้อหรือเช่าห้องขนาดใหญ่ขึ้น

IStoreUdomsuk-63
05 Feb 2025
วีรบุรุษของธุรกิจ Self Storage

คุณภักดี อนิวรรตน์ ได้รับเงินทุนสำหรับการทำแบรนด์ i-Store และกำลังใช้เงินทุนนั้นเพื่อเร่งการเติบโตของบริษัทไปทั่วประเทศไทย ความสำเร็จ 'ข้ามคืน' ของเขาใช้เวลาสร้างมากกว่า 30 ปี บทเรียนบางอย่างที่เขาเรียนรู้มาด้วยวิธีที่ยากลำบาก แต่เขาได้ใช้เหล่านั้นเพื่อผลักดันความสำเร็จในธุรกิจเซลฟ์สตอเรจ

คุณภักดี อนิวรรตน์ คือใคร?

ในฐานะลูกคนกลางตามแบบฉบับ คุณภักดี อนิวรรตน์ไม่ได้เดินตามเส้นทางที่ครอบครัววางไว้ให้ หลังจากจบมัธยมปลาย เขาไม่ได้เลือกเส้นทางวิศวกรรมเหมือนพี่น้องของเขาที่เดินตามรอยพ่อ แต่การเข้าสู่วงการธุรกิจของเขากลับกลายเป็นสิ่งที่ครอบครัวต้องการในช่วงเวลาที่มืดมนที่สุด

เขายังคงศึกษาต่อแต่เลือกเรียนธุรกิจที่มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ในกรุงเทพฯ บ้านเกิดของเขา เขาอาจจะใช้ชีวิตตามคำกล่าวที่ว่า "อย่าให้การเรียนในชั้นเรียนขัดขวางการศึกษาของคุณ!" วิกฤตการเงินในเอเชียปี 1997 ได้ส่งผลกระทบอย่างรุนแรงต่อเขาและนักลงทุนที่มีประสบการณ์มากกว่าอีกหลายล้านคน เมื่อปีทองทางเศรษฐกิจมาถึงจุดสิ้นสุดอย่างรวดเร็ว โดยเงินบาทไทยเป็นโดมิโนตัวแรกที่ล้มในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้

เขาสำเร็จการศึกษาและเข้าทำงานในแผนกตลาดทุนของธนาคารในประเทศ ประสบการณ์นี้เป็นประโยชน์อย่างมากเมื่อครอบครัวต้องการให้เขากลับเข้ามาในธุรกิจครอบครัว

"ลูกชายสายธุรกิจ" และการฟื้นฟูบริษัทยูนิทริโอ

พี่น้องของเขาเลือกเส้นทางวิศวกรรมเช่นเดียวกับพ่อ ซึ่งคุณมนตรี อนิวรรตน์ พ่อของคุณภักดีได้ก่อตั้งธุรกิจเกี่ยวกับระบบไอทีและ Data Center ที่ประสบความสำเร็จ แต่ในช่วงหลังวิกฤตการเงิน บริษัทมีหนี้สินมากกว่า 150 ล้านบาท (มากกว่า 4 ล้านดอลลาร์สหรัฐ) ลูกชายคนกลางจึงจำเป็นต้องเข้ามาช่วยธุรกิจครอบครัวให้กลับมาอยู่ในเส้นทางที่ถูกต้อง

เขาเริ่มทำงานอย่างหนักในการปฏิรูประบบบัญชี ปรับโครงสร้างการเงิน และจัดการงานขาย ระบบและรูปแบบการทำงานแบบใหม่ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานอย่างมาก และเมื่อเวลาผ่านไปบริษัทก็สามารถชำระหนี้ทั้งหมดได้ และกลับมาทำกำไรได้อีกครั้ง และหลังจากที่ทำงานกับบริษัทมากว่า 15 ปี ครอบครัวเห็นสมควรที่จะแต่งตั้งคุณภักดีขึ้นเป็นประธานบริหาร ซึ่งในเวลานั้น บริษัทมีพนักงานมากกว่า 200 คนและบรรลุเป้าหมายสำคัญคือมีรายได้ประจำปี 1 พันล้านบาท (มากกว่า 29 ล้านดอลลาร์สหรัฐ)

เขาตั้งเป้าหมายที่จะนำบริษัทเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ และกองทุนทั้งในประเทศและต่างประเทศก็เข้ามาลงทุนมากมาย ความสำเร็จของพวกเขาไม่ได้ถูกมองข้าม ในปี 2013 นักลงทุนจาก The Abraaj Group ได้ขายการลงทุนในยูนิทริโอให้กับ NTT Facilities ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของยักษ์ใหญ่ด้านโทรคมนาคมของญี่ปุ่น NTT ส่วนหนึ่งของแผนคือการสร้างศูนย์ข้อมูลที่ใหญ่ที่สุดในประวัติศาสตร์ไทยในนิคมอุตสาหกรรมอมตะซิตี้ จังหวัดชลบุรี ซึ่งในปี 2015 ศูนย์ใหม่นี้ก็เปิดตัวอย่างยิ่งใหญ่

ความเป็นผู้นำด้านเทคโนโลยีทำให้ยูนิทริโอ นำโดยคุณภักดี อนิวรรตน์ ร่วมมือกับยักษ์ใหญ่ด้านเทคโนโลยีของญี่ปุ่นอย่าง NTT เพื่อเปิด Data Center ที่ใหญ่ที่สุดในประวัติศาสตร์ไทย

อะไรคือ 'เซลฟ์สตอเรจ' ที่คุณพูดถึง?

การทำธุรกิจนี้หมายความว่าครอบครัวต้องออกจากธุรกิจและคุณภักดีต้องการภารกิจใหม่ การลงทุนในอสังหาริมทรัพย์เป็นเรื่องดีในช่วงหนึ่ง แต่เมื่อเพื่อนในสิงคโปร์เล่าให้เขาฟังเกี่ยวกับธุรกิจใหม่ที่แปลกนี้ - "เซลฟ์สตอเรจ" - เขารู้สึกสนใจ การวิจัยอย่างรวดเร็วทำให้เขามั่นใจว่าเซลฟ์สตอเรจจะประสบความสำเร็จในประเทศไทย ด้วยพนักงานที่ดีที่สุดสามคนจากสมัยยูนิทริโอ เขากระโดดเข้าสู่เกมนี้ บริษัทแม่ของแบรนด์ i-Store คือ Storage Asia และเริ่มต้นด้วยเงินทุน 100% จากเงินทุนของคุณภักดี

เขาเจอทำเลแรกสำหรับซื้อที่ดินในสุขุมวิทซอย 24 ย่านที่มีประชากรหนาแน่นในคอนโดมิเนียมใจกลางเมือง แต่เนื่องจากต้องใช้เวลาประมาณหนึ่งปีในการก่อสร้าง คุณภักดีจึงตัดสินใจพัฒนาและทดสอบการดำเนินงานโดยเปิดสาขาในย่านสีลม โดยใช้อาคารพาณิชย์ที่ปรับปรุงให้เป็นพื้นที่เซลฟ์สตอเรจสำหรับ i-Store

สาขาแรกนี้มีพื้นที่เพียง 420 ตารางเมตรและมีห้องเก็บของเพียง 112 ห้อง หรือประมาณ 1 ใน 10 ของขนาดสาขาสุขุมวิท 24 ที่วางแผนไว้ อย่างไรก็ตามสาขาสีลมถือเป็นสาขาที่ให้ประสบการณ์การเรียนรู้ที่มีค่าในการดำเนินงานบริการ การตลาด และการเปรียบเทียบต้นทุนระหว่างการปรับปรุงอาคารและการก่อสร้างอาคารใหม่ ทั้งหมดนี้ให้ข้อมูลและประสบการณ์ที่มีค่า และช่วยให้คุณภักดีเข้าใจความจริงที่ว่า แต่ละสาขาใหม่ต้องการการลงทุนจำนวนมาก ดังนั้นเขาจึงมองหาพันธมิตรเพื่อเสริมความแข็งแกร่งทางการเงินของ Storage Asia และเร่งกระบวนการขยายตัวของธุรกิจ

การอยู่รอดและการเติบโตต้องการโซลูชันทางการเงินที่หลากหลาย และคุณภักดีกลายเป็นผู้เชี่ยวชาญในการเลือกใช้เครื่องมือทางการเงินทุกด้าน ไม่ว่าจะเป็น การกู้ยืมเงินจากสถาบันการเงิน การใช้สินทรัพย์ส่วนตัวเป็นหลักประกัน และการเจรจากับนักลงทุนที่สนใจในธุรกิจ สิ่งนี้นำไปสู่การระดมทุนรอบแรกของ i-Store ในปี 2021 ผ่านกองทุน TRUST จาก SME Bank ซึ่งการลงทุนจาก SME Trust ทำหน้าที่เป็นก้าวแรกที่ช่วยดึงดูดนักลงทุนรายอื่นให้เข้าร่วมในธุรกิจนี้

บทเรียนที่ได้เรียนรู้จากการฟื้นฟูยูนิทริโอได้ถูกนำมาใช้ ทำให้นักลงทุนได้เห็นถึงการมีวัฒนธรรมองค์กรที่สนับสนุนการทำงานเป็นทีม และมีเป้าหมายเดียวกันทั้งองค์กร  อีกหนึ่งในกุญแจสำคัญสำหรับนักลงทุนคือ Storage Asia และ i-Store เป็นธุรกิจเซลฟ์สตอเรจแบบเต็มตัว และโฟกัสเต็ม 100% ในการทำให้เซลฟ์สตอเรจนั้นประสบความสำเร็จ

ความสำเร็จในกรุงเทพฯ กำลังเป็นก้าวแรกสำหรับคุณภักดี และคู่แข่งบางรายในการขยายไปยังส่วนอื่นๆ ของประเทศไทย กรุงเทพฯ เป็นพื้นที่ที่มีสภาพแวดล้อมที่เป็นเอกลักษณ์ของคนท้องถิ่น มีความเป็นสากล และมีการศึกษาดี รวมถึงชาวต่างชาติที่มีฐานะดีซึ่งเมืองอื่นๆ อาจไม่มี ชาวกรุงเทพฯ ส่วนมากคือ คนที่อาศัยอยู่ในคอนโดมิเนียมที่มีประชากรหนาแน่นสูง แต่พื้นที่อยู่อาศัยน้อยลง และอยู่เหนือสถานีรถไฟฟ้าที่สามารถพาพวกเขาไปยังพื้นที่เซลฟ์สตอเรจได้

ในจังหวัดอื่นๆ พวกเขากำลังพยายามใช้ประโยชน์จากสถานที่ท่องเที่ยวเช่นภูเก็ต ชลบุรี และเชียงใหม่ ซึ่งบางครั้งยังมีชาวต่างชาติที่พำนักอยู่และคุ้นเคยกับเซลฟ์สตอเรจ ไม่ว่าจะเป็นวัยเกษียณหรือชาว Digital Nomad ที่ "Work from Anywhere" ที่อาจจะมาอาศัยอยู่เป็นระยะเวลานาน ซึ่งเป็นส่วนที่ช่วยขับเคลื่อนการใช้เซลฟ์สตอเรจ ผู้ใช้บริการกลุ่มแรกๆ เหล่านี้ คือ คนที่ใช้จ่ายกับสิ่งต่างๆ และเริ่มคุ้นเคยกับการใช้เซลฟ์สตอเรจทั้งในด้านธุรกิจและส่วนตัว

การระบาดของโควิดเป็นจุดเปลี่ยน เพราะผู้ให้บริการต่างช่วยกันให้ความรู้แก่ลูกค้าเกี่ยวกับประโยชน์ของการใช้งานของเซลฟ์สตอเรจผ่านสื่อสังคมออนไลน์

ก้าวต่อไปของ i-Store คืออะไร?

เซลฟ์สตอเรจเป็นหัวใจหลักแต่การให้เช่าไม่ใช่แหล่งรายได้เพียงอย่างเดียว เพราะ i-Store ยังให้บริการออกแบบและก่อสร้างเซลฟ์สตอเรจสำหรับเจ้าของที่ดินและเจ้าของอาคารเพื่อปรับปรุงหรือพัฒนาพื้นที่ และให้บริการเซลฟ์สตอเรจในพื้นที่เหล่านั้นด้วย รวมถึงการให้คำปรึกษาจากผู้เชี่ยวชาญในด้านการออกแบบพื้นที่ การก่อสร้าง ผนังกั้นเซลฟ์สตอเรจ และบริการจัดการพื้นที่เก็บของ ประเมินความเป็นไปได้ของโครงการ การวิเคราะห์ไซต์ การจัดวางพื้นที่ให้มีประสิทธิภาพสูงสุด และแผนการทำการตลาด

พวกเขายังวางแผนที่จะพัฒนาพื้นที่เก็บของประเภทอื่นๆ เช่น พื้นที่เก็บของกลางแจ้ง เพื่อตอบสนองความต้องการของลูกค้าที่หลากหลายที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้

สาขา i-Store 10 แห่งทั่วกรุงเทพฯ จะมีเพิ่มเติมในไม่ช้าด้วยสิ่งอำนวยความสะดวกที่ใหญ่ที่สุดของ i-Store ที่เอกมัย กรุงเทพฯ กำลังมีการวางแผนและมองหาพื้นที่เพื่อนำแบรนด์ i-Store ไปยังจังหวัดอื่นๆ โดยเฉพาะสถานที่ท่องเที่ยวในประเทศไทย การขยายไปต่างประเทศยังไม่ได้ถูกตัดออกไป รสนิยมในการผจญภัยระหว่างประเทศของเขาอาจได้รับแรงบันดาลใจจากละครทีวีในวัยเด็ก เช่น มังกรหยก จากฮ่องกง ที่เต็มไปด้วยกังฟูและความลึกลับ ทุกปี คุณสามารถพบเขาในต่างประเทศที่งาน Self Storage Expo Asia ที่เขาและทีมของเขากำลังแบ่งปันเรื่องราวความสำเร็จและนำสิ่งที่ดีที่สุดของโลกมาสู่ i-Store และอาณาจักรเซลฟ์สตอเรจที่กำลังเติบโตของพวกเขา

Credit : STORBOSS Magazine by SSAA, issued February 5, 2025

07 Jan 2025
เปิดวันนี้ i-Store ทองหล่อ ปักหมุดทำเลทอง ก้าวกระโดดมี 10 สาขา มากที่สุดในกรุงเทพฯ
บริษัท สอตเรจ เอเชีย จำกัด (มหาชน) ขึ้นแท่นเป็นผู้ให้บริการ Self Storage มากที่สุดในกรุงเทพฯ ล่าสุดเปิดให้บริการ i-Store Self Storage สาขาทองหล่อ เพื่อรองรับความต้องการของลูกค้าซอยทองหล่อและสุขุมวิทฝั่งเลขคี่  i-Store สาขาทองหล่อ ตั้งอยู่ในซอยทองหล่อ 9 ห่างจากสถานีรถไฟฟ้าทองหล่อ BTS เพียง 800 เมตร ซึ่งถือว่าเป็นทำเลที่ตั้งอยู่ในใจกลางเมือง มีคอนโดรายล้อมและชาวต่างชาติอาศัยอยู่เป็นจำนวนมากการขยายสาขาของ i-Store Self Storage ในปี 2024 ถือว่าขยายการให้บริการเติบโตแบบก้าวกระโดด จากเมื่อปี 2023 เปิดให้บริการเพียง 5 สาขา ณ ปัจจุบันเปิดให้บริการทั้งหมด  10  สาขา คือ (1)สาขาสีลม, (2)สาขาสุขุมวิท 24 ,(3) สาขาสุขุมวิท 71, (4)สาขาสาทร วัน , (5)สาขาหัวลำโพง, (6) สาขาอุดมสุข , (7) สาขาอ่อนนุช , (8) สาขาจตุจักร, (9) สาขาเพลินจิต-นานา, (10) สาขาทองหล่อ 9 รวมขนาดพื้นที่ให้บริการทั้งหมด  9,131 ตรม. ขึ้นแท่นเป็นผู้ให้บริการ Self Storage มากที่สุดในกรุงเทพ ทั้งนี้ยังไม่นับรวมสาขา Unmanned Storage ที่เปิดให้บริการในคอนโดมิเนียม อีก 3 โลเคชั่น คือ คอนโด Aspire สาทร-ตากสิน, Hasu Haus T77 และคอนโดโนเบิล เพลินจิต เป็นต้นนอกจากนี้ทาง i-Store ยังเล็งเห็นศักยภาพของการเติบโตธุรกิจ Self Storage ในประเทศไทย โดยมีแผนที่จะขยายพื้นที่บริการให้ครอบคลุมในเขตกรุงเทพและต่างจังหวัดที่เป็นหัวเมืองเศรษฐกิจและการท่องเที่ยวของประเทศไทย พร้อมกับพัฒนารูปแบบการให้บริการเพื่อให้สามารถตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้าให้ได้มากที่สุด   /*! elementor - v3.17.0 - 01-11-2023 */ .elementor-widget-image{text-align:center}.elementor-widget-image a{display:inline-block}.elementor-widget-image a img[src$=".svg"]{width:48px}.elementor-widget-image img{vertical-align:middle;display:inline-block}
30 Dec 2024
ประเทศไทยฮอตมาก! ปัจจัยต่างๆ ที่ช่วยขับเคลื่อนให้ธุรกิจ Self Storage เติบโตไปสู่จุดสูงสุดในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้

แอนดรูว์ เวิร์ค ผู้อำนวยการบริหารของสมาคมการจัดเก็บด้วยตนเองแห่งเอเชีย (SSAA) มองเห็นแนวโน้มที่สดใสสำหรับธุรกิจการจัดเก็บด้วยตนเองในประเทศไทย

"เราจัดงาน Expo ปีที่แล้วในกรุงเทพฯ เนื่องจากการเติบโตอย่างรวดเร็วของธุรกิจการจัดเก็บด้วยตนเองที่นั่นและในเมืองอื่นๆ ในประเทศไทย" เวิร์คกล่าว "หนึ่งในสมาชิกของเรา - บริษัท สตอเรจ เอเชีย จำกัด (มหาชน) - ได้จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ที่รู้จักกันในชื่อตลาด LivEx และพวกเขาได้ดึงดูดการลงทุนจากยักษ์ใหญ่ด้านโลจิสติกส์ในท้องถิ่นจำนวนมาก เรื่องราวของธุรกิจห้องเก็บของส่วนตัว หรือ Self Storage ในประเทศไทยน่าตื่นเต้นมาก"

ผู้บุกเบิกธุรกิจ Self Storage ในประเทศไทย คุณภักดี อนิวรรตน์ ผู้ก่อตั้งและประธานเจ้าหน้าที่บริหารของบริษัท สตอเรจ เอเชีย จำกัด (มหาชน) มีช่วงเวลา "อ๋อ" ในปี 2015 เมื่อเขาเห็นว่าธุรกิจ Self Storage กำลังเติบโตในประเทศอื่นๆ เช่น สหรัฐอเมริกา สหราชอาณาจักร ออสเตรเลีย ฮ่องกง สิงคโปร์ และจีน

"ผมสนใจในอุตสาหกรรมอสังหาริมทรัพย์มาตลอด" คุณภักดีกล่าว "นอกจากนี้ ผมคิดว่าธุรกิจ Self Storage มีศักยภาพในประเทศไทยเนื่องจากพฤติกรรมของลูกค้า โดยเฉพาะผู้ที่อาศัยในคอนโดมิเนียม และความหนาแน่นของประชากรในพื้นที่เมืองของกรุงเทพฯ"

(หมายเหตุทางวัฒนธรรม: ต่างจากสหรัฐอเมริกา ขนบธรรมเนียมการเรียกชื่อของไทยเน้นที่ชื่อจริงซึ่งมาก่อนนามสกุล ดังนั้นเราจึงเรียก คุณภักดี แทนที่จะเป็น คุณอนิวรรตน์)

เขาเปิดตัวบริษัท สตอเรจ เอเชีย จำกัด (มหาชน) ในเดือนมิถุนายน 2015 จากนั้นเปิดสาขาแรกของบริษัทภายใต้แบรนด์ i-Store Self Storage ในย่านสีลมในเดือนตุลาคม 2017 การเริ่มต้นในอุตสาหกรรมนี้ของ i-Store ด้วยพื้นที่ 1,700 ตารางฟุตได้รับการตอบรับที่ค่อนข้างน้อยในช่วงแรก "ในช่วงสามเดือนแรก เรามีลูกค้าเพียงห้าราย" คุณภักดีกล่าว "อย่างไรก็ตาม ด้วยการรับรู้ที่มากขึ้นและการทำงานหนักของทีมงานของเรา ตอนนี้เรามีพื้นที่ 100,000 ตารางฟุตกับเจ็ดสาขา

คุณภักดีชี้ให้เห็นถึงปัจจัยหลายประการที่ขับเคลื่อนการเติบโตของ i-Store Self Storage และของอุตสาหกรรมโดยรวมในประเทศไทย - ในบรรดานั้นคือการเป็นเมืองที่มีความหนาแน่นของประชากร ราคาคอนโดที่สูงขึ้นในกรุงเทพฯ การเติบโตของอีคอมเมิร์ซ ผู้คนที่หันมาใช้วิถีชีวิตแบบดิจิทัลโนแมดมากขึ้น และการรับรู้เกี่ยวกับ Self Storage ในฐานะบริการที่มากขึ้น

นอกจากคอนโดที่มีราคาสูงขึ้นแล้ว ขนาดของคอนโดก็เล็กลงอย่างต่อเนื่อง ทำให้ผู้อยู่อาศัยมีพื้นที่น้อยลง คุณภักดีกล่าวว่าห้องพักแบบหนึ่งห้องนอนโดยเฉลี่ยในเขตกรุงเทพฯ มีขนาด 250-300 ตารางฟุต โดยมีค่าใช้จ่ายเฉลี่ย 400 ดอลลาร์ต่อตารางฟุต

นอกจากที่เก็บของสำหรับที่พักอาศัยแล้ว สถิติการเติบโตของอีคอมเมิร์ซสำหรับประเทศไทยแสดงให้เห็นถึงการเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วและมีนัยสำคัญทั้งในปัจจุบันและในปีข้างหน้า "สำหรับผู้ค้าออนไลน์ พวกเขาต้องการสถานที่เก็บสินค้า ในขณะที่ผู้ซื้อต้องการที่เก็บสิ่งของที่แทบไม่ได้ใช้" คุณภักดีสังเกต "ดังนั้น Self Storage จึงสามารถใช้เป็นที่เก็บของให้กับธุรกิจได้เช่นกัน" นอกเหนือจากแนวโน้มเหล่านั้น เขายังสังเกตว่าชาวต่างชาติกำลังเดินทางมาประเทศไทยมากขึ้น บางครั้งเพื่อทำงานและบางครั้งเพื่อเกษียณ "การใช้บริการ Self Storage มีความจำเป็นทั้งในระหว่างการย้ายที่อยู่อาศัย และในขณะที่อาศัยอยู่ในประเทศไทย" เขากล่าว

มีการประมาณการว่า 3 ถึง 4 ล้านคนจากประชากรทั้งหมด 71.85 ล้านคนของประเทศไทยเป็นชาวต่างชาติ ส่วนใหญ่มาจากประเทศใกล้เคียงในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ แต่หลายคนก็มาจากประเทศอื่นๆทั่วโลก ประเทศไทย - ซึ่งมีขนาดทางภูมิศาสตร์ประมาณสองเท่าของรัฐออริกอน ประเทศสหรัฐอเมริกา เป็นต้น - อยู่ในอันดับที่ 6 จาก 53 ประเทศในฐานะสถานที่ที่ดีที่สุดสำหรับชาวต่างชาติ ตามการสำรวจล่าสุดโดย InterNations ซึ่งเป็น Community ระดับโลกที่มีสำนักงานอยู่ในเยอรมนี มีสมาชิกมากกว่า 5 ล้านคนใน 420 เมืองทั่วโลกที่นำเสนอโอกาสในการสร้างเครือข่ายและการเข้าสังคมสำหรับชาวต่างชาติ กรุงเทพฯ อยู่ในอันดับที่ 9 จาก 49 เมืองในการจัดอันดับเมืองสำหรับชาวต่างชาติของ InterNations ปี 2023

คุณภักดีมองเห็นโอกาสในการเติบโตเพิ่มเติมในตลาด Self Storage ของประเทศไทย เขากล่าวว่าประเทศไทยมีพื้นที่ Self Storage ประมาณ 500,000 ตารางฟุต เทียบกับประมาณ 30 ล้านตารางฟุตทั่วทั้งเอเชีย

"เราอยากขยายธุรกิจภายในห้าปี" คุณภักดีกล่าว "เรากำลังวางแผนที่จะเปิดในภูเก็ต พัทยา เชียงใหม่ และจังหวัดอื่นๆ" การขยายตัวตามแผนของเขาจะเพิ่มพื้นที่ให้เช่าสุทธิอีก 300,000 ตารางฟุตจากปัจจุบันที่มี 100,000 ตารางฟุต คุณภักดีกล่าวว่าเขายินดีต้อนรับพันธมิตรหรือนักลงทุนที่สนใจในการขยาย i-Store Self Storage ซึ่งได้รับรางวัลหลายรายการจาก SSAA ในประเทศไทยและไปยังประเทศอื่นๆ ในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ โดยเฉพาะในเมืองหลวงของประเทศอื่นๆ เหล่านั้น

เขากล่าวว่าความสำเร็จบางส่วนของ i-Store มาจากเทคโนโลยีที่ช่วยให้ทีมงานของเขาสามารถมอบประสบการณ์ที่ดีให้กับลูกค้า พวกเขาพัฒนาระบบ Storage Management เพื่อให้ทำงานร่วมกับระบบบัญชีของไทยได้ และกำลังทดลองระบบการชำระเงินและแพลตฟอร์มที่แตกต่างกันเพื่อดูว่าอันไหนเหมาะกับความต้องการของลูกค้ามากที่สุด พวกเขาพัฒนาระบบการจองของตนเอง (เว็บไซต์และ UX/UI) แต่ว่าจ้างบุคคลภายนอกในการดำเนินการ และพวกเขากำลังทดสอบผู้ให้บริการระบบควบคุมการเข้าถึงที่แตกต่างกันในขณะที่พวกเขากำลังเชื่อมต่อมันเข้ากับเว็บไซต์และระบบการจัดการของพวกเขา

ขอขอบคุณบทความจาก SSA Magazine ฉบับเดือนกรกฎาคม 2567

20 Nov 2024
i-Store มุ่งมั่น ESG สู่ความเป็นเลิศ ห้องเก็บของใส่ใจสิ่งแวดล้อม

ปัจจุบัน สตอเรจ เอเชีย จำกัด (มหาชน) ได้ปลูกฝัง mindset ด้านความยั่งยืนให้แก่บุคลากรภายในองค์กร โดยเริ่มจากความตระหนักด้านสิ่งแวดล้อม ขยะ และพลังงาน ที่เริ่มจากเรื่องใกล้ตัว เช่น พัฒนาระบบ e-Document เพื่อนำมาปรับใช้ภายในองค์กร ปลูกต้นไม้ทดแทนเพื่อเพิ่มพื้นที่สีเขียวให้มากขึ้น แยกและทิ้งขยะอิเล็กทรอนิกส์เพื่อเข้าสู่กระบวนการกำจัดอย่างถูกวิธี  

ในภารกิจด้านการส่งเสริมความยั่งยืนโดยมุ่งเน้นจากการสร้างผู้นำในองค์กรและสร้างวัฒนธรรมที่ยั่งยืน สนับสนุนและส่งเสริมให้ทุกคนในองค์กรมีส่วนร่วมในการขับเคลื่อนองค์กรตามนโยบาย ESG ให้ประสบความสำเร็จและก่อให้เกิดประโยชน์สูงสุด เพราะงานด้าน ESG จะต้องอาศัยกำลังคนเป็นแรงผลักดันที่เกิดจากความรู้และกระทำอย่างเต็มใจ ดังนั้นผู้นำต้องเป็นแบบอย่างและสนับสนุนการมีส่วนร่วมเพื่อประสานความร่วมมือของทุกคนในองค์กรให้สร้างวัฒนธรรมที่แข็งแรง

การพัฒนาทักษะบุคลากรให้สามารถปฏิบัติและขับเคลื่อนนโยบายด้าน ESG อย่างมีประสิทธิภาพ ผ่านการจัดกิจกรรมร่วมกันภายในองค์กรและการสร้างความยั่งยืนในด้านสังคมรวมถึงการดูแลความปลอดภัย สุขภาพ และความเป็นอยู่ที่ดีของพนักงาน รวมถึงชุมชนรอบข้าง ด้วยการการส่งเสริมความเท่าเทียมและความหลากหลายภายในองค์กร สร้างบรรยากาศการทำงานที่ดีเพื่อดึงดูดบุคลากรที่มีคุณภาพ

การเติบโตอย่างยั่งยืนสำหรับธุรกิจ Self Storage นั้นจำเป็นต้องมองให้ไกลกว่าการขยายขนาดพื้นที่ให้บริการและการเพิ่มรายได้ แต่ต้องมีการบูรณาการการพัฒนา ออกแบบบริการให้เหมาะสมกับความต้องการของลูกค้า สื่อสารถึงคุณค่าของธุรกิจที่คำนึงถึงสิ่งแวดล้อมและสังคมให้กับลูกค้า เพื่อสร้างภาพลักษณ์ที่ดีและดึงดูดกลุ่มลูกค้าที่ให้ความสำคัญกับสิ่งแวดล้อมและความยั่งยืน สร้างสรรค์เนื้อหาหรือคำแนะนำให้ลูกค้าเกี่ยวกับการจัดเก็บสิ่งของอย่างยั่งยืน ทั้งนี้ยังช่วยส่งเสริมภาพลักษณ์ความไว้วางใจจากลูกค้าซึ่งส่งผลดีต่อภาพลักษณ์และความภักดีต่อแบรนด์ในระยะยาว

01 Nov 2024
เปิดแล้ว  i-Store สาขาเพลินจิต-นานา ก้าวเข้าสู่สาขาที่ 9 ย้ำศักยภาพของผู้นำบริการห้องเก็บของในประเทศไทย ตามเป้าปีนี้ 10 สาขา

คุณภักดี อนิวรรตน์ CEO & Founder เดินหน้าขยายสาขา i-Store สาขาเพลินจิต-นานา เป็นสาขาที่ 9 เมื่อวันที่ 31 ตุลาคม 2567 เพื่อรองรับความต้องการของลูกค้าย่านเพลินจิต-นานา ทำเลศักยภาพเป็น Prime area ที่ตอบโจทย์คนพื้นที่น้อยสำหรับกลุ่มผู้พักอาศัยในคอนโดมิเนียมและกลุ่มอาคารสำนักงาน ทำเลที่ตั้งของ i-Store สาขาเพลินจิต-นานา ตั้งอยู่ในซอย 1 บนถนนสุขุมวิท ห่างจากสถานีรถไฟฟ้า BTS เพลินจิต เพียง 450 เมตร ลูกค้าสามารถนำรถยนต์ส่วนตัวมาจอดรถและขนย้ายสิ่งของได้อย่างสะดวกสบาย

การเปิด i-Store สาขาเพลินจิต-นานา เป็นการขยายสาขาตามแผนงานที่วางไว้ตามเป้า 10 สาขา ในเขตกรุงเทพมหานคร ภายในปี 2567 และมีพื้นที่ให้บริการรวม 10,000 กว่าตารางเมตร โดยการขยายสาขาไม่เพียงแต่เป็นการเร่งอัตราการเปิดสาขาเท่านั้น แต่อัตราการเข้าใช้บริการของลูกค้าก็เติบโตขึ้นจากปี 2566 จากภาพรวมใน Q3 นี้ ถือว่ามีการเติบโตขึ้นมากถึง 100% เหตุเพราะการรับรู้ของคนไทยมีความเข้าใจธุรกิจบริการห้องเก็บของเพิ่มมากขึ้น อีกทั้งปัจจัยการเข้ามาของนักลงทุนและต่างชาติที่เข้ามาทำงานในเมืองไทยก็มีจำนวนเพิ่มมากขึ้นเช่นกันอีกด้วย

01 Nov 2024
คุณค่าของ i-Store PRIME

หากใครมาถามว่าเลือกใช้บริการ i-Store แล้วได้อะไร ... i-Store เหมือนหรือแตกต่างจากแบรนด์อื่นๆ ยังไงบ้าง นอกจากตั้งอยู่ใน Prime Location? คำถามนี้คือแรงผลักดันให้ i-Store คิดพัฒนาและสร้างความแตกต่างเพื่อแสดงจุดยืนที่ชัดเจนในการแข่งขันของตลาดบริการห้องเก็บของ เพื่อให้ความคุ้มค่าและเกิดประโยชน์สูงสุดกับลูกค้าที่เข้ามาใช้บริการ มุ่งเน้นที่จะสร้างประสบการณ์ที่ดีและเพื่อตอบแทนความไว้วางใจของลูกค้าด้วยคุณค่าจาก i-Store PRIME ซึ่งแบ่งจุดเด่นหลัก ๆ ดังนี้

  • i-Store -P = Premium: ให้ทุกการเข้าถึงของลูกค้าสัมผัสได้ถึงความแตกต่างในการใช้บริการห้องเก็บของในระดับพรีเมียม ถ่ายทอดผ่านการออกแบบสถานที่และการให้บริการต้อนรับสิ่งของอันเป็นที่รัก ให้ความอบอุ่น เปรียบ i-Store เป็นเหมือนส่วนหนึ่งในบ้านของลูกค้า
  • i-Store -R = Reliable Partner: ให้ความสำคัญกับลูกค้าเหมือนเป็นพาร์ทเนอร์ที่ช่วยเหลือและพัฒนาสิ่งดีๆ ร่วมกัน ด้วยการยอมรับคำแนะนำและพัฒนาอย่างต่อเนื่อง และหวังว่าการบริการของเราจะสร้างความพึงพอใจให้กับลูกค้า
  • i-Store -I = International Standard: สร้างความไว้วางใจให้กับลูกค้าด้วยมาตรฐานที่ได้รับการยอมรับในระดับสากล ด้วยการดำเนินงานที่เป็นระบบและมีประสิทธิภาพอย่างตรงไปตรงมา
  • i-Store -M = Managed by Professionals: บริการจัดการด้วยทีมงานที่มีความเป็นมืออาชีพเพื่อสร้างความน่าเชื่อถือจากบุคลากรที่ให้ความสำคัญกับสิ่งที่จำเป็นในการสร้างประสบการณ์การใช้บริการให้เกิดความคุ้มค่ามากที่สุด
  • i-Store -E = Excellent Service: มอบการบริการเหนือความคาดหวังและเป็นที่หนึ่งในใจของลูกค้า มุ่งเน้นการให้บริการและมอบสิทธิประโยชน์ที่ดีที่สุดให้กับลูกค้า

ที่ i-Store เราทำงานร่วมกันเป็นทีม โดยเจ้าหน้าที่ของ i-Store ประจำสาขา นอกจากจะยินดีให้คำปรึกษาและช่วยเหลือลูกค้าอย่างมืออาชีพแล้ว ในส่วนระบบหลังบ้านเรายังมีการคิดค้นพัฒนาผลิตภัณฑ์หรือบริการให้มีคุณภาพดีที่สุด เพื่อให้ลูกค้าสามารถมั่นใจและไว้ใจได้ว่าการเก็บรักษาสิ่งของที่ i-Store คุ้มค่า และจะสร้างประสบการณ์ที่ดีที่สุดเมื่อมาใช้บริการ

01 Oct 2024
วิสัยทัศน์ที่ชัดเจน สร้างแรงบันดาลใจสู่เป้าหมายขององค์กร

บนเส้นทางธุรกิจบริการห้องเก็บของส่วนตัว แบรนด์ i-Store ตลอดระยะเวลา 7 ปีที่ผ่านมา ถือว่า i-Store เป็นแบรนด์ อันดับต้น ๆ ของเมืองไทย ด้วยสาขาที่เปิดให้บริการ 10 สาขา ทั่วกรุงเทพฯ และยังได้รับคำชื่นชมจากลูกค้าเมื่อมาใช้บริการเป็นอย่างมาก ทั้งเรื่องของโลเคชั่นที่สะดวกสบาย สถานที่สะอาด ระบบรักษาความปลอดภัยที่ได้มาตรฐาน และสิ่งสำคัญที่สุดคือเรื่องของการให้บริการที่เหนือความคาดหมาย

ด้วยความตั้งใจของ คุณภักดี อนิวรรตน์ (ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท สตอเรจ เอเชีย จำกัด (มหาชน)  ที่จะให้ i-Store สามารถเข้าถึงลูกค้าได้มากขึ้น นำเสนอบริการที่ไม่ใช่แค่เพียงห้องเก็บของ แต่เป็นการนำเสนอบริการห้องเก็บของที่มีความหลากหลายและครอบคลุมความต้องการทั้งในส่วนการให้บริการและคู่ค้าทางธุรกิจ วิสัยทัศน์ขององค์กรจึงเปรียบเสมือนเข็มทิศที่ชี้นำทางให้องค์กรเดินไปในทิศทางที่ต้องการ และสร้างแรงบันดาลใจให้ทีมงานมีส่วนร่วมในการสร้างสิ่งที่ยิ่งใหญ่และมีคุณค่าตามวิสัยทัศน์องค์กร คือ “เรามุ่งมั่นที่จะเป็นผู้นำ และขับเคลื่อนธุรกิจบริการห้องเก็บของนอกบ้านอย่างมืออาชีพ และสร้างสรรค์คุณค่าจากการนำนวัตกรรมที่ทันสมัยมาพัฒนาการให้บริการร่วมกับพันธมิตรที่แข็งแกร่งเพื่อก้าวสู่การเติบโตอย่างยั่งยืน” โดยมีพันธกิจที่บริษัทฯ ต้องทำเพื่อบรรลุวิสัยทัศน์ในระยะยาว 3 ข้อ คือ

  • สร้างคุณค่า – ส่งมอบบริการที่ตอบสนองกับความต้องการของลูกค้าในทุกๆ ไลฟ์สไตล์ และสร้างความพึงพอใจอย่างสูงสุดแก่ลูกค้า
  • สร้างคุณภาพ – พัฒนาผลิตภัณฑ์และบริการที่มีคุณภาพ โดยใช้เทคโนโลยีและระบบการจัดการที่ทันสมัยเพื่อเพิ่มศักยภาพในการทำงาน และลดการสร้างมลภาวะที่กระทบต่อสิ่งแวดล้อม
  • สร้างมาตรฐาน – ดำเนินธุรกิจตามหลักธรรมภิบาล ขับเคลื่อนองค์กรด้วยนวัตกรรมที่ทันสมัยและสามารถผลักดันองค์กรสู่ตลาดสากล

ซึ่งเป้าหมายของปีนี้ไม่ใช่แค่เพียงแต่เดินหน้านำบริษัทฯ เข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ MAI เพื่อระดมทุนสำหรับการเตรียมขยายสาขาให้ครอบคลุมทั้งกรุงเทพฯ และต่างจังหวัดในประเทศไทยแล้วนั้น แต่ยังเป็นการเพิ่มศักยภาพการเติบโตของบริษัทให้มีความมั่นคงต่อไปในอนาคต สามารถพัฒนารูปแบบการให้บริการที่ทันสมัยและตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้าในทุกๆ ไลฟ์สไตล์