ค่าเช่าบ้านที่ราคาสูงขึ้น บวกกับค่านิยมในการทำงานแบบ Work from Home ก่อให้เกิดความต้องการในการใช้บริการ Self Storage ที่มากขึ้นในทวีปเอเชีย ซึ่งกระตุ้นความสนใจจากกลุ่มนักลงทุนโดยเฉพาะในกลุ่มบริษัท Global Private Equity

“เทรนด์ Urbanization (การเติบโตของเขตเมือง) เป็นปัจจัยที่ทำให้นักลงทุนเห็นว่าตลาด Self Storage ในเอเชีย สามารถประสบความสำเร็จได้เช่นเดียวกับที่สหรัฐอเมริกาเมื่อ 15-20 ปีที่แล้ว” Fan Li, กรรมการผู้จัดการ Warburg Pincus และ คณะกรรมการบริหาร StorHub กล่าว

ความนิยมในการใช้ Self Storage ในเอเชีย นับเป็นอีกหนึ่งทางเลือกของนักลงทุนในธุรกิจอสังหาริมทรัพย์  เนื่องจากความกังวลในด้าน macroeconomic และการชะลอตัวของธุรกิจอสังหาฯในบางเมือง ผู้เชี่ยวชาญกล่าวว่าผลตอบแทนจากธุรกิจ Self Storage อาจสูงกว่าการลงทุนด้านอสังหาริมทรัพย์อื่นๆ อย่างมาก เนื่องจากมีความยืดหยุ่นต่ออัตราเงินเฟ้อ และมีความทนทานต่อสภาวะเศรษฐกิจ

“Warburg Pincus เริ่มมีความเชื่อมั่นในธุรกิจ Self Storage ในเอเชียตั้งแต่ 5 ปีที่แล้ว” Fan Li กล่าว และเมื่อเกิดโรคระบาดโควิด-19 ความสนใจในพื้นที่เก็บของก็เริ่มมีมากขึ้นจากปัจจัย 5 Ds ดังนี้ Density (ความหนาแน่นของประชากร), Disposable income (รายได้ที่บุคคลสามารถนำไปใช้จ่ายได้จริง), Divorce (การหย่าร้าง), Death (การตาย), และหลังจากโควิด-19 ก็คือ Decluttering (การจัดระเบียบที่อยู่อาศัย)

“Warburg Pincus ซื้อ Storage Plus ผ่าน StorHub ในราคาที่ไม่เปิดเผยเมื่อเดือนที่แล้ว นับเป็นการเข้าซื้อกิจการ Self Storage ที่ใหญ่ที่สุดแห่งหนึ่งของประเทศที่บันทึกไว้ ซึ่งบริษัทฯ ยังคงมองหา deals ที่คล้ายๆกันอยู่” Fan Li กล่าว

ที่มา: https://www.bloomberg.com/news/articles/2023-10-18/asia-s-small-homes-decluttering-drive-self-storage-investments?leadSource=uverify%20wall